ออมสินติดเครื่องระดมเงินฝาก จ่อคลอด “เผื่อเรียกพิเศษ” ล้อสินเชื่อโต

แบงก์ออมสินติดเครื่องระดมเงินฝาก ต่อเนื่อง “ชาติชาย” จ่องัดโปรดักต์ “เผื่อเรียกพิเศษ” รองรับขยายสินเชื่อเอสเอ็มอี ปูพรมตามแผนขยายศูนย์ธุรกิจเอสเอ็มอี 82 ศูนย์ใน ก.ย.นี้ ล่าสุด เข็น “สลากออมสินพิเศษ 5” ดอกเบี้ยสูงกว่า 2% คาดครึ่งปีหลังแบงก์แข่งแย่งเงินฝากเข้มข้น

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า จากนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2561 ธนาคารจะออกผลิตภัณฑ์ (โปรดักต์) เงินฝากอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งระดมเงินฝากตามเป้าหมาย อาทิ ผลิตภัณฑ์เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ เป็นต้น ซึ่งในปีนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายเงินฝากเติบโต 1-1.5 เท่าของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) หรือ 4-6% จากสิ้นปี 2560 ที่มียอดเงินฝาก 2.26 ล้านล้านบาท

โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ การแข่งขันด้านเงินฝากของธนาคารต่าง ๆ จะมีความเข้มข้นขึ้นตามลำดับ จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยก็คงมีการขยับตาม

“คาดว่าจนถึงสิ้นปีการระดมเงินฝากของธนาคารออมสินจะเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งก็ขึ้นกับการปล่อยสินเชื่อด้วย หากเราปล่อยสินเชื่อมาก ก็จะต้องหาเงินฝากมาก โดยปกติเราจะไปเร่งระดมเงินฝากในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนครึ่งปีแรกจะยังไม่ได้เร่งมากนัก เพราะสภาพคล่องเราสูงถึง 3-4 แสนล้านบาท” นายชาติชายกล่าว

ทั้งนี้ ล่าสุดธนาคารออมสินได้กลับมาออกสลากออมสินพิเศษ รุ่นอายุ 5 ปี หน่วยละ 100 บาท โดยเปิดตัวแคมเปญ “ออมสินสายเปย์ รวยล้านทุกเดือน” และเริ่มเปิดรับฝากตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป โดยให้อัตราดอกเบี้ย 4 บาท/หน่วย เมื่อฝากครบ 5 ปี หรือคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยกว่า 2% ซึ่งผู้ซื้อจะมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลเลขสลาก 60 ครั้ง เงินรางวัลสูงสุด 5 ล้านบาท และสิทธิลุ้นรับรางวัลพิเศษ รถเบนซ์ รถยนต์ รถกระบะ และรางวัลอื่น ๆ รวม 108 รางวัล มูลค่ารวม 15 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้ธนาคารได้หยุดออกสลากพิเศษ 5 ปีไปหลายปี เนื่องจากต้นทุนที่ค่อนข้างแพง ซึ่งการกลับมาออกครั้งนี้ก็เพื่อคืนกำไรให้แก่ลูกค้า และปรับสมดุลระหว่างเงินกู้และเงินฝากให้เหมาะสมมากขึ้น ปัจจุบันสลากออมสินมียอดคงค้างกว่า 9 แสนล้านบาท โดยเป็นสลากอายุ 3 ปีทั้งสิ้น ซึ่งการที่กลับมาออกสลากพิเศษ 5 ปี ที่มีระยะเวลายาวขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงก่อนหน้านี้ธนาคารได้ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน (ซอฟต์โลน) ให้แก่รัฐบาล ซึ่งมีระยะเวลากู้ 7 ปี และปัจจุบันซอฟต์โลนดังกล่าวเหลือเวลา 5 ปี จึงต้องปิดความเสี่ยงเรื่องความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย

นายชาติชายกล่าวด้วยว่า ตั้งเป้าหมายระดมเงินฝากจากสลากออมสินพิเศษ 5 ปีไว้ที่ 60,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะจำหน่ายได้หมดไม่เกิน 2 เดือน ซึ่งเงินส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอี ที่ปีนี้ตั้งเป้าขยายสินเชื่อเอสเอ็มอีสุทธิที่ 48,000 ล้านบาท โดยธนาคารจะมีการขยายศูนย์ธุรกิจเอสเอ็มอีเป็น 82 ศูนย์ ภายในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อให้ได้ตามเป้าหมาย หลังจากที่สิ้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ขยายได้ 37 ศูนย์แล้ว

สำหรับสภาพคล่องธนาคารมีอยู่สูงอยู่ที่ 3-4 แสนล้านบาท ถือว่ามีความพร้อมให้กู้ต่อโครงการลงทุนขนาดใหญ่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะโครงการรถไฟฟ้า หรืออื่น ๆ ซึ่งหากมีการติดต่อเข้ามาก็พิจารณาให้กู้ได้ทันที รวมถึงการเข้าประมูลปล่อยกู้ให้แก่ภาครัฐที่ธนาคารพยายามรักษายอดให้กู้ภาครัฐไว้ที่ 4 แสนล้านบาทต่อปี