นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการนักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเฮ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในวันที่ 28 มิ.ย.61 ดัชนีฯผันผวนหนักรับแรงกดดันช่วงท้ายตลาดหลังจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ในรุ่น S50M18 หมดอายุวันสุดท้ายกดดันตลาด ประกอบกับเจอแรงเทขายหุ้นบิ๊กแคปออกมาฉุดดัชนีร่วงปิดลบไปกว่า 19 จุด หลุดระดับ 1 ,600 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงในช่วงบ่ายหลังการเปิดตลาดภาคบ่าย ส่งผลให้วันนี้ดัชนีฯปิดตลาดที่ 1,599.54 จุด ลดลง 19.12 จุด หรือ -1.18% ขณะที่มูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม) อยู่ที่ 56,974.68 ล้านบาท
ส่วนทิศทางการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (29 มิ.ย.61) นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเฮ็ง (ประเทศไทย) ประเมินว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่ง Sideway ระยะสั้นๆ หลังจากนักลงทุนรอปัจจัยสงครามการค้าที่จะเกิดผลกระทบในช่วงวันที่ 6 ก.ค.61 ประกอบการค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอยู่ที่ระดับ 33 บาท อาจจะเป็นตัวชี้วัดให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยแผ่วลงต่อได้ โดยมองกรอบดัชนีฯเคลื่อนไหวบริเวณระดับแนวรับ 1,580 จุด ขณะแนวต้านที่ 1,620 จุด ซึ่งทั้งสองประเด็นยังคงต้อจับตาเพราะอาจจะส่ง Downside เพิ่มเติมได้
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามกลยุทธ์การลงทุนสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงไม่ได้ให้ชะลอการลงทุนและรอจังหวะ ส่วนนักลงทุนระยะกลางและระยะยาว แนะนำให้ “ทยอยสะสม” เลือกหุ้น Domestic Play ในช่วงไตรมาส 3/61 ได้แก่ STEC, BBL,CPALL, BJC, SPALI, GLOD
