ตลาดหุ้นขาลง 6 เดือนแรก นักลงทุนต่างชาติเทขาย 1.8 แสนล้าน กองทุนแห่ลดสัดส่วนหุ้นถือเงินสดเพิ่มขึ้น ขณะที่ 13 หุ้นไอพีโอลุ้นระทึก “ทีมกรุ๊ป” กัดฟันฝ่ามรสุม ยอมดิสเคานต์ราคาหุ้นจองอยู่ที่ 2.42 บาท/หุ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561 พบว่านักลงทุนต่างชาติมีการขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1.8 แสนล้านบาท ตามมาด้วยบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1.12 หมื่นล้าน ขณะที่ในส่วนของนักลงทุนสถาบันหรือกองทุนยังคงมีการซื้อสุทธิราว 7.69 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดี บทวิเคราะห์ของ บล.เอเซีย พลัสระบุว่า ปัจจุบันกองทุนต่าง ๆ ก็มีการขายหุ้นเพื่อถือเงินสดมากขึ้น โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ วันที่ 29 มิ.ย. ปิดที่ 1595.58 จุด ลดลง 3.96 จุด
- เปิดค่าซ่อม “รถอีวี vs รถใช้น้ำมัน” แพงกว่ากันเท่าไร
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- ออมสิน จัดโปรฯเด็ดเงินฝากดอกเบี้ย 21% สลาก 1 ปี แจกทอง 10 กิโล
มิ.ย.ฝรั่งทิ้งหุ้น 5.1 หมื่น ล.
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงสัปดาห์หน้า ดัชนียังคงแกว่งตัวในทิศทางขาลง จากสถานการณ์ระหว่างสหรัฐกับจีน โดยเฉพาะวันที่ 6 ก.ค. 61 ซึ่งเป็นดีเดย์ที่ทั้งสองประเทศประกาศจะบังคับใช้อัตราภาษีนำเข้าใหม่ 25% ซึ่งสหรัฐประกาศจะขึ้นภาษีสินค้าจากจีนคิดเป็นมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐในมูลค่าใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงก็จะยิ่งสร้างความตึงเครียดทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้น จนอาจนำไปสู่การทำสงครามการค้าได้ ซึ่งสะท้อนภาพของความไม่แน่ใจจากนักลงทุนในตลาดที่มีค่อนข้างมาก
ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ มาจากทิศทางค่าเงินบาทอ่อนค่าลงไปค่อนข้างเร็ว ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความกังวลเทขายทำกำไรออกจากตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเดือน มิ.ย.นี้ มีนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4.86 หมื่นล้านบาท ซึ่งสวนทางกับตลาดบอนด์ (พันธบัตรรัฐบาล) ที่มีแรงซื้อกลับเข้ามาเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า
“บริษัทมองว่าสัปดาห์หน้ากรอบดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1,590-1,610 จุด อาจมีแรงเหวี่ยงหลายรอบ เพราะไม่สามารถคาดการณ์สถานการณ์ภายนอกได้ แต่ก็ยังไม่เห็นภาพดัชนีที่จะหลุดระดับ 1,500 จุด เพราะว่าดัชนีปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากแล้ว อยู่ในระดับ P/E ที่ 14.5 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่กำลังน่าสนใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อดัชนีหลุด 1,600 จุด แนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นทยอยลดพอร์ตจากเดิม 40% ลดลงเหลือไม่เกิน 25-30% ส่วนนักลงทุนระยะยาวให้ถือเงินสดรอซื้อในกลุ่มหุ้นที่มีการปันผล”
13 หุ้นไอพีโอ “ลุ้นระทึก”
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการนักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เนื่องจากตลาดอยู่ในภาวะซบเซาและขาลง ทำให้ช่วงนี้หุ้นน้องใหม่ที่มีการขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯอาจจะไม่ใช่ช่วงที่ดีมากนัก และอาจส่งผลให้ราคาไอพีโอไม่สูงตามที่คาดหวัง และเมื่อเปิดการซื้อขายอาจจะทำให้นักลงทุนรีบเทขายเพื่อล็อกกำไร
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก ตลท. ขณะนี้มีบริษัทที่อยู่ระหว่างยื่นคำขอเข้าจดทะเบียน หรือไอพีโอ ทั้งหมด 13 บริษัท เป็นบริษัทยื่นจดทะเบียนใน SET จำนวน 6 บริษัท ประกอบด้วย 1.บมจ.ทีม คอลซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมแบบบูรณาการ และจัดทำรายงานประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) 2.บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) บริษัทลงทุนธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ 3.บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์กล๊าส (BGC) ธุรกิจจัดจำหน่าย ส่งออกและนำเข้าบรรจุภัณฑ์แก้ว 4.บมจ.ดูโฮม (DO) ค้าปลีก ค้าส่ง ด้านวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร 5.บมจ.โอสถสภา (OSP) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค 6.บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9)
และบริษัทที่ยื่นจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ 7 บริษัท ได้แก่ บมจ.ชิค รีพับบลิค (CHIC), บมจ.เจ้าพระยามหานคร (CMC), บมจ.เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค (KWM), บมจ.เอ็ม วิชั่น (MVP ), บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC), บมจ.ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง (TIGER) บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) หรือ TPLAS
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความผันผวนของดัชนีตลาดหุ้นเวลานี้ ทำให้หุ้น IPO น้องใหม่ที่จะเข้ามาจดทะเบียนช่วงนี้ ต้องพิจารณาในหลายปัจจัยทั้งพื้นฐานของบริษัท ขนาดของหุ้น IPO เพราะจะมีผลในการตัดสินใจว่าจะเข้าซื้อหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ปีนี้มีหุ้นไอพีโอให้เลือกไม่มาก จึงทำให้หุ้น IPO ยังมีความน่าสนใจ
นายวิศรุต อังศุภากร รองผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บล.โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การกำหนดราคาหุ้น IPO จำเป็นต้องคำนึงถึงโมเมนตัมของภาวะตลาด และในช่วงที่ภาวะตลาดค่อนข้างแย่ก็ไม่เหมาะที่จะเข้าซื้อขาย เพราะการขายจะต้องมีส่วนลดหุ้นจองให้นักลงทุน ซึ่งจากสถิติทั่วไปอยู่ที่ 15-20% ซึ่งปัจจุบัน บล.โนมูระฯ เตรียมรับประกันและจัดจำหน่ายหุ้น IPO อยู่ประมาณ 4 ตัว หนึ่งในนั้นคือ MVP ที่กำลังโรดโชว์อยู่ที่เชียงใหม่
TEAMG กัดฟันดิสเคานต์หุ้นจอง
นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) กล่าวว่า สำหรับราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) อยู่ที่ 2.42 บาทต่อหุ้น จากราคาพาร์ 0.50 บาท โดยเสนอขาย 180 ล้านหุ้น ซึ่งในภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนค่อนข้างรุนแรง บริษัทจึงได้ตัดสินใจที่จะให้ส่วนลด (discount) ของราคาหุ้นจอง เพื่อทดแทนความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ถือเป็นการปรับลดลงให้ค่อนข้างมากจากเดิมที่วิเคราะห์ไว้ โดยจะเปิดรับจองซื้อระหว่างวันที่ 4-6 ก.ค. 2561 และจะเข้าซื้อขายวันแรกในวันที่ 12 ก.ค. 2561
“เราใช้ฤกษ์ดีที่เลือกไว้ โดยไม่เลื่อนแผน เนื่องจากบริษัทต้องการนำบริษัทเข้าจดทะเบียน เป็นการสร้างมาตรฐานของบริษัทเพื่อเตรียมพร้อมไปแข่งขันในระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นเป้าหมายของบริษัทที่จะขยายออกไปรับงานต่างประเทศมากขึ้น ส่วนการให้ส่วนลดนักลงทุนแล้วจะทำให้ได้เงินน้อยลง ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด หากดัชนีจะลงไปอีกก็ไม่ได้กังวล สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ประมาณ 435.6 ล้านบาท ส่วนหนึ่งจะนำลงทุนในเรื่องระบบคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีต่าง ๆ ราว 65 ล้านบาท ที่เหลือจะเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ” นายชวลิตกล่าว
