“Best-in-Class” จัดพอร์ตที่ใช่…

คอลัมน์ Look Around

เชื่อไหมว่า กองทุนที่ดีที่สุด ไม่ใช่กองทุนที่ผลตอบแทนดีที่สุดเสมอไป ทั้งไม่ใช่กองทุนที่ใหญ่ที่สุดเสมอไป รวมถึงอาจไม่ใช่กองทุนที่ผลตอบแทนปีล่าสุดเป็นอันดับหนึ่งด้วย บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน (บลน.) ฟินโนมีนา ศึกษามาว่า กองทุนที่ดีที่สุดแต่ละประเภทจะมีกุญแจสำคัญ คือ ต้องเคยขาดทุนสูงสุดในระดับต่ำ และมีผลตอบแทนสม่ำเสมอในช่วง 3 ปี จึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ FINNOMENA Best-in-Class Portfolio (BIC) แก่นักลงทุน

โดย “เจษฎา สุขทิศ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลน.ฟินโนมีนา บอกว่าบริษัทจะดูจาก 3 ปัจจัย คือ 1.ความสม่ำเสมอของผลตอบแทนระยะยาว 2.อัตราผลตอบแทนหลังปรับด้วยความเสี่ยง และ 3.ผลขาดทุนสูงสุดในอดีต โดยคำนวณออกมาเป็น FINNOMENA Score และเลือก 3 กองทุนที่ได้คะแนนสูงสุดมาจัดเป็นพอร์ต BIC ซึ่งจะเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันนี้-1 ต.ค. 61 มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท

ทั้งนี้ BIC จะมี 4 การลงทุนให้เลือก ดังนี้ 1.กองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ เนื่องจากไทยจะมีเลือกตั้งช่วงต้นปี”62 ถือเป็นโอกาสดีที่เงินลงทุนจะไหลกลับมาลงทุนในไทยอีกครั้ง ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/61 อยู่ในเกณฑ์ที่เติบโตดี

2.กองทุนที่ลงทุนในกองอสังหาฯ และ REITs จะมีอัตราเงินปันผลถึง 5-7% ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก 3.กองทุนหุ้นเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยี AI, social media และการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลยังเป็นเมกะเทรนด์ของโลก และ 4.กองทุนหุ้น Healthcare เป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ เพราะในระยะยาวหลายประเทศกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย

“บลน.ฟินโนมีนา จะทำการเลือก 3 กองทุนยอดเยี่ยมในกองทุนแต่ละกลุ่มนี้ จากที่มีให้เลือกประมาณ 20 กองทุนในบ้านเรา”

นอกจากนี้ BIC กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 1 ล้านบาท เนื่องจากเป็นการลงทุนที่กระจุกตัวในแต่ละเซ็กเตอร์ ดังนั้น กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นนักลงทุนที่มีความเข้าใจและรับความเสี่ยงแต่ละชนิดสินทรัพย์ที่ลงทุนได้

“เราพบว่ากองทุนที่เป็น BIC ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ เช่น กองทุนที่เป็น BIC หุ้นไทยขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนสะสมย้อนหลังที่ 54% ขณะที่กองทุนที่มี FINNOMENA Score อยู่ท้ายตารางให้ผลตอบแทนสะสมย้อนหลังเพียง 7% ผลลัพธ์ต่างกันมาก จึงเชื่อว่าการลงทุนในกองทุน BIC จะตอบโจทย์นักลงทุนบ้านเราได้ดี”

การลงทุนที่ดี คือการรู้จัก…จัดพอร์ต ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี