เบี้ยประกันชีวิตรับรวมช่วง 10 เดือนทั้งระบบแตะ 5.09 แสนล้านโต 4.57%

นายพิชา สิริโยธิน ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า เบี้ยประกันชีวิตรับรวม ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2561 (ม.ค.-ต.ค.61) มีจำนวน 509,954.73 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (เดือนมกราคม-ตุลาคม 2560) 4.57% และคิดเป็นอัตราความคงอยู่ร้อยละ 83 โดยแยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 146,721.34 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 7.44%

ซึ่งประกอบด้วย (1) เบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกจำนวน 77,269.67 ล้านบาท และ (2) เบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียวจำนวน 69,451.66 ล้านบาท และสำหรับเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่ออายุมีจำนวน 363,233.39 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 3.46%

สำหรับเบี้ยประกันชีวิตรับรวมกว่า 509,954.73 ล้านบาท เป็นผลมาจากการที่บริษัทประกันชีวิตมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อสนองต่อความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่สามารถนำเบี้ยประกันภัยไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี ประกอบกับการที่ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำประกันชีวิตมากขึ้น และตระหนักถึงสังคมผู้สูงอายุ จึงได้มีการออมเงินผ่านระบบประกันชีวิตมากขึ้น รวมถึงการที่บริษัทประกันชีวิตได้เพิ่มช่องทางการขายที่หลากหลาย ทำให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเข้าถึงการประกันชีวิตได้ง่ายขึ้น

ผู้อำนวยการบริหารสมาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประชาชนที่มีความต้องการความคุ้มครองด้านการประกันชีวิตและความคุ้มครองด้านประกันสุขภาพ สามารถติดต่อบริษัทประกันชีวิตเพื่อขอซื้อความคุ้มครองดังกล่าวได้ อีกทั้งเบี้ยประกันภัยดังกล่าวสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ การขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับเบี้ยประกันสุขภาพจะต้องแจ้งการใช้สิทธิผ่านบริษัทประกันชีวิต เพื่อที่บริษัทประกันชีวิตจะนำส่งข้อมูลต่อกรมสรรพากรตามประกาศที่กรมสรรพากรกำหนด ส่วนการขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับเบี้ยประกันชีวิต ผู้เอาประกันภัยจะต้องนำหลักฐานหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัยหรือใบเสร็จการชำระเบี้ยประกันภัยยื่นโดยตรงต่อกรมสรรพากรตามที่เคยปฏิบัติ

อนึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง อยากฝากเตือนประชาชนที่ต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ควรหาซื้อประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ หรือสัญญาเพิ่มเติมด้านสุขภาพ เพื่อรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดหมาย