ธปท.ชี้ศก.ปีนี้พลาดเป้า4.4% เตือนปีกุนเสี่ยง”ส่งออก-ท่องเที่ยว”ชะลอ

ธปท.ชี้เดือน ต.ค.สัญญาณเศรษฐกิจดีขึ้น แรงส่งภาคส่งออกโตกว่า 8% ยอมรับผลบวกระยะสั้น หวั่นส่งออกทั้งปีไม่ถึงเป้า 8% นักท่องเที่ยวจีนหดต่อเนื่อง หวังชาติอื่นทดแทน ทำใจปิดท้ายปี ศก.ไม่ปัง จ่อปรับลดจีดีพีปีนี้เหลือ 4% ต้น ๆ “ภัทร” ฟันธงปี”62 ศก.ไทยโตชะลอ ส่งออกโตลด ท่องเที่ยวไม่โต “กด” จีดีพีหาย 1%

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา ปรับตัว “ดีขึ้น” จากเดือนก่อนหน้า โดยปัจจัยหลักมาจากภาคส่งออกที่กลับมาเติบโต 8.4% หลังจากเดือน ก.ย.หดตัว 5.5% ทั้งนี้ มีปัจจัยชั่วคราวจากภัยธรรมชาติของประเทศคู่ค้าคลี่คลายและมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน มีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้จีนเร่ง “นำเข้า-ส่งออก” สินค้าในช่วงนี้ ส่งผลให้ไทยมีการส่งออกไปจีนเพิ่มมากขึ้น แต่คาดว่าทั้งปีนี้ การเติบโตของส่งออกไทยยังเป็นเรื่องท้าทายที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย 8%

ขณะที่ด้านท่องเที่ยวเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา มีจํานวนลดลงเล็กน้อย 0.5% เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนที่หดตัวสูง 19.8% และลดต่อเนื่องในเดือน พ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีบางกลุ่มยังขยายตัวได้ดี เช่น มาเลเซีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย จึงน่าจะทำให้ทั้งปี การท่องเที่ยวของไทยกลับมาเป็นบวกได้

สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงอยู่ที่ 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดือนก่อนที่อยู่ที่ 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามดุลการค้าเป็นสําคัญ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลสุทธิจากทั้งด้านสินทรัพย์ที่เห็นนักลงทุนไปลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องและด้านหนี้สินที่เห็นเงินไหลออกจากตลาดหุ้นเป็นส่วนใหญ่

ส่วนเศรษฐกิจในประเทศโดยรวมดีต่อเนื่อง ด้านการบริโภคเอกชนขยายตัวสูง 6.5% ในทุกหมวดการใช้จ่าย ขณะที่กําลังซื้อโดยรวมดีขึ้นต่อเนื่องตามรายได้นอกและในภาคเกษตรกรรมที่ขยายตัว และช่วงปลายปีได้มีมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐที่ออกมา ด้านการลงทุนภาคเอกชนก็กลับมาขยายตัวสอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัว แต่การใช้จ่ายภาครัฐก็ลดลงจากรายจ่ายประจํา ขณะที่รายจ่ายลงทุนขยายตัว

“เศรษฐกิจปีนี้จากที่ตั้งเป้าไว้ที่ 4.4% อาจจะลดลงมาเหลือ 4% ต้น ๆ เพราะถ้าจะให้จีดีพีถึงเป้าหมายที่ 4.4% ในไตรมาส 4 จะต้องมี GDP อยู่ที่ 4.8% ซึ่งมีโอกาสไม่เยอะ เราจะมีการทบทวนตัวเลขทางเศรษฐกิจใหม่ในเดือน ธ.ค.นี้”

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีหน้าที่ตั้งเป้าเติบโต 4.2% นั้น นายดอนกล่าวว่า จะต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ต่อไป เช่น การส่งออกอาจชะลอตัวลง และผลกระทบของสงครามการค้าที่อาจมีมากกว่าคาดการณ์ และที่สำคัญต้องจับตาความต่อเนื่องของการลงทุนภาคเอกชนที่จะได้โครงการ EEC ในขณะที่การท่องเที่ยวคาดว่าจะกลับมาดีขึ้น ขณะที่ “การเลือกตั้ง” อาจไม่ได้เห็นผลต่อการบริโภคและการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอ้างอิงจากตัวเลขในอดีตที่ผ่านมา

นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตรชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ภัทร เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้น่าจะเติบโต 4% ต้น ๆ และปีหน้าคาดว่าจะโตช้าลง เนื่องมาจากปัจจัยหลักคือ “การส่งออกและการท่องเที่ยว” เริ่มชะลอตัว ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจจะผ่านจุดที่ดีที่สุดไปแล้ว ทำให้เศรษฐกิจหลายประเทศเริ่มเติบโตช้าลง

“การส่งออกและท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์ที่ผลักดันการเติบโตของประเทศ ถ้าท่องเที่ยวไม่โตเลย จะทำให้ GDP เราหายไป 1% ซึ่งปีหน้าคาดว่าการส่งออกจะโตเหลือ 5-6% ปีหน้ามีความเสี่ยงต้องติดตาม คือ ราคาสินค้าเกษตรบางชนิดที่ลดลงต่อเนื่อง จะส่งผลต่อการบริโภคต่างจังหวัดไม่ฟื้นตัว และต้องดูเศรษฐกิจจีนที่ชะลอจะส่งผลต่อท่องเที่ยวไทยได้ และทิศทางการเมืองไทย” นายพิพัฒน์กล่าว