‘กสิกรไทย’ปรับคาดการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น Q3/60 แตะ 33.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ธนาคารกสิกรไทยปรับคาดการณ์ค่าเงินบาทไตรมาส 3/60 แตะ 33.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่มองไว้ที่ 34.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ชี้ผลกระทบเงินเฟ้อไทยต่ำ กระตุ้นนักลงทุนต่างชาติสนใจเข้าลงทุนตราสารหนี้ พันธบัตรในไทย เผยคาดหวังธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) บริหารค่าเงินเชิงรุก ลดมาตรการเชิงรับอย่างเดียว ส่วนเทรนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตลาดคาดว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ก่อนสิ้นปีนี้

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ทางธนาคารปรับคาดการณ์ค่าเงินบาท ณ ไตรมาส 3/ 2560 อยู่ที่ 33.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 34.20 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดุลบัญชีเดินสะพัดที่ยังเกินดุลมากกว่าคาด ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อของไทยที่อยู่ระดับต่ำ เป็นอันดับ 3 ของตลาดเอเชียเกิดใหม่ เป็นปัจจัยกระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้าลงทุนพันธบัตรในไทย โดยปัจจุบันมีนักลงทุนต่างชาติถือครองสินทรัพย์ของไทยอยู่ที่ 768,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจาก สิ้นปี 2559 ที่อยู่ระดับ 634,000 ล้านบาท ทั้งนี้จากเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าที่สุดในเอเชียเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

“ค่าเงินบาทอาจจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 33.30-33.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐไปสักพัก แต่เราก็คาดหวังว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) บริหารค่าเงินเชิงรุก และลดมาตรการเชิงรับบ้าง ซึ่งตอนนี้เครื่องมือบริหารอัตราแลกเปลี่ยนของคณะกรรมการนโยบายการเงิน( กนง.)ก็ยังมีอยู่ 2 อย่าง ได้แก่ 1.การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2. การบริหารอัตราแลกเปลี่ยน “นายกอบสิทธิ์กล่าว

ทั้งนี้ปัจจัยที่ต้องจับตามองเรื่องค่าเงินบาทในช่วงเวลาที่เหลือของปีคือ อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งตลาดคาดว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ภายในปีนี้ ในขณะที่ตลาดยังจับตามองว่า เฟด จะเริ่มลดขนาดงบดุล(มาตรการQE) ซึ่งจะส่งผลให้สภาพคล่องของดอลลาร์สหรัฐค่อยๆลดลง อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจโลกที่มีทิศทางการเติบโตตั้งแต่ครึ่งปีแรก อาจจะชะลอตัวในระยะต่อไป เพราะการค้าโลกและดัชนีภาคการผลิต(PMI) อาจช้าลง โดยสิ้นปีคาดว่า จีดีพีโลกจะอยู่ที่ 3.4%

ในส่วนประเทศไทยที่จีดีพี ไตรมาส 2 ปี 2560 อยู่ที่ 3.7% เพราะการส่งออกและท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น แต่ 4 เดือนต่อจากนี้ เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงสำหรับภาคธุรกิจ คือ อุปสงค์ภายในประเทศ ที่การบริโภคของไทยประมาณ 22% มาจากชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวและบริโภคของไทยดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์ในต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น ค้าปลีก

Advertisment