หุ้นพลังงานกดดันตลาดปิดลบ 16.37 จุด โบรกฯ แนะลงทุนหุ้น Domestic Play

นายพบชัย ภัทราวิชญ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชียพลัส เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นวันที่ 11 ธ.ค.61 ปิดตลาดที่ดัชนี 1,633.62 จุด ปรับลดลง 16.37 จุด หรือลดลง 0.99% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 35,022.60 ล้านบาท โดยมีปัจจัยกดดันนอกประเทศ ได้แก่ ความไม่แน่นอนในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังมีกรณีประเทศแคนาดาจับกุมประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเจรจาที่อาจไม่ราบรื่น

นอกจากนี้ยังมีความยืดเยื้อจากการเลื่อนพิจารณาการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) รวมถึงปัจจัยราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวลดลงต่อแม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) จะตัดสินใจลดกำลังการผลิตลง แต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการน้ำมันที่หายไปในปีหน้า

ส่วนปัจจัยหนุนในประเทศอย่างความชัดเจนในการเลือกตั้ง ยังไม่สามารถช่วยหนุนดัชนีในวันนี้ได้ และตลาดหุ้นในภูมิภาคเดียวกันวันนี้ ปิดตลาดกระจายกันทั้งบวกและลบ เป็นผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงและปิดลบเช่นกัน โดยกลุ่มที่กดดันตลาดมากที่สุด คือ กลุ่มพลังงาน ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง รวมถึงกลุ่มขนส่งและกลุ่มค้าปลีกก็มีส่วนกดดันตลาดหุ้นในวันนี้ด้วย

ด้านทิศทางตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะมีโอกาสลุ้นดีดตัวกลับ (Rebound) ช่วงดัชนีแถว 1,630 จุด โดยให้แนวรับดัชนีในวันพรุ่งนี้ที่ 1,625 จุด และแนวต้านดัชนีที่ 1,645 จุด

ด้านกลยุทธ์การลงทุน ประเมินว่าปัจจุบันตลาดได้สะท้อนข่าวบวกและลบไปแล้ว อย่างไรก็ตามยังแนะนำหุ้นกลุ่ม Domestic Play ได้แก่ กลุ่มธนาคารที่จะได้รับประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นในปีหน้า แนะนำ KBANK และ BBL รวมถึงกลุ่มสื่อ โดยเน้นที่สื่อนอกบ้านที่จะมีเม็ดเงินโฆษณาเข้ามาในปลายปีที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของกลุ่ม แนะนำ PLANB หุ้นรับเหมาก่อสร้างที่จะได้ประโยชน์จากโครงการรถไฟเชื่อมสามสนามบิน แนะนำ STECON ส่วนกลุ่มค้าปลีกแม้วันนี้ย่อตัวลงมาแต่ประเมินว่าเป็นเพียงการพักตัวระยะสั้น แนะนำ “เข้าซื้อสะสม” รับแรงหนุนไฮซีซั่นในปลายปีและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ แนะนำ BJC และ CPALL