ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่ารอการประชุมเฟด

แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 18 ธันวาคม 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (18/12) ทึ่ระดับ 32.76/78 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (17/12) ที่ระดับ 32.78/79 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะที่ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (19/12) และการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟดป ในคืนวันพรุ่งนี้ (19/12) อย่างไรก็ตามเมื่อคืนที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ โดยได้กล่าวว่า “การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงพิจารณาที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายการประชุมรอบเดือนธันวาคมเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ เนื่องจากขณะนี้เงินดอลลาร์นั้นอยู่ในสภาวะที่แข็งค่ามากและการเติบโตของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐนั้นแทบจะเป็นศูนย์ อีกทั้งเศรษฐกิจนอกสหรัฐนั้นไม่ได้อยู่ในสภาพที่แข็งแกร่ง โดยมีเหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงปารีสและเศรษฐกิจของประเทศจีนอยู่ในช่วงขาลง” นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ได้รายงานว่าดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 10.9 จุดในเดือนธันวาคม จากระดับ 23.3 ในเดือนพฤศจิกายนซึ่งต่ำกว่าระดับ 20.6 ที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.72-32.765 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.74/76 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ/

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (18/12) ที่ระดับ 1.1348/50 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (18/12) ที่ระดับ 1.1336/38 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรปรับตัวแข็งค่าแม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ โดยดัชนีราคาผู้บริโภคของสหภาพยุโรปเมื่อเปรียบเทียบรายปีปรับเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.9 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 อีกทั้งดุลการค้าของสหภาพยุโรปประจำเดือนตุลาคมนั้นมียอดเกินดุลอยู่ที่ 1.25 หมื่นล้านยูโร ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะมียอดเกินดุลอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านยูโร อย่างไรก็ตาม มีประกาศรายงานยอดดุลการค้าประจำเดือนตุลาคมของอิตาลีโดยออกมาเกินดุล 3.78 พันล้านยูโร ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะมียอดเกินดุล 1.89 พันล้านยูโร ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1335-1.1377 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1368/70 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (18/12) ที่ระดับ 112.72/74 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (17/12) ที่ 113.33/36 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ เงินเยนแข็งค่าขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ถึงแม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีงบประมาณ 2562 ลงสู่ระดับร้อยละ 1.3 จากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.5 อีกทั้งได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภคในปี 2562 ลงสู่ระดับร้อยละ 1.1 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 1.5 โดยได้ระบุว่าการใช้จ่ายด้านทุนขยายตัวน้อยกว่าคาด ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 112.33-112.86 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 112.35/37 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้ได้แก่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (19/12) คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (19/12) ธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย (20/12) ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย (20/12) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (20/12)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.80/-2.70 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง  ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -1.95/-1.35 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ