รื้อเงินสมทบ “กองทุนประกัน” ชง คปภ.แยกส่วนจัดเก็บเบี้ยยูนิตลิงก์

สมาคมประกันชีวิตไทยจ่อชง คปภ.ทบทวนการนำส่งเงินสมทบ สำหรับ “กรมธรรม์ยูนิตลิงก์” เข้ากองทุนคุ้มครองผู้เอาประกันภัย ชี้แยกเก็บเฉพาะส่วน “โพรเท็กชั่น” ที่บริษัทประกันรับเสี่ยง เพื่อสอดรับประเทศในอาเซียน ด้าน “นายกสมาคม” ระบุควรเก็บในอัตราที่น้อยกว่า 0.1% เพราะโพรเท็กชั่นเป็นสัดส่วนน้อย ตั้งโจทย์สมาคมต้องดำเนินการ และนำข้อมูลเข้าหารือ คปภ.

นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้สมาคมกำลังทบทวนการนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนคุ้มครองผู้เอาประกันภัย กรณีกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงก์) โดยปัจจุบันต้องนำส่งเงินสมทบในอัตรา 0.1% ของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกและปีต่อไป ตามประกาศ คปภ.

ซึ่งจากการเข้าร่วมประชุม ASEAN Insurance Council Meeting ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อปลายเดือน พ.ย. 61 นั้นพบว่า บริษัทประกันชีวิตในอาเซียนส่วนใหญ่จะนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนดังกล่าวเฉพาะส่วนความคุ้มครองชีวิต (โพรเท็กชั่น) ที่บริษัทประกันรับความเสี่ยงไว้เท่านั้น ในขณะส่วนการลงทุน (อินเวสต์เมนต์) ที่ลูกค้ารับความเสี่ยงไม่ได้ถูกนำมานับรวม เพราะฉะนั้น บริษัทประกันชีวิตในไทยก็ควรจะแยกส่งให้ชัดเจนเหมือนกัน รวมถึงควรจะนำส่งเงินสมทบในอัตราที่น้อยกว่า 0.1% เนื่องจากกรมธรรม์ยูนิตลิงก์มีสัดส่วนที่เป็นโพรเท็กชั่นไม่มาก ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษา แต่ถือเป็นโจทย์ของสมาคมที่ต้องดำเนินการ เพื่อนำข้อมูลเข้าไปหารือกับ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)

“กรมธรรม์ยูนิตลิงก์มีสัดส่วนที่เป็นโพรเท็กชั่นนิดเดียว ถ้าเทียบสัดส่วนการลงทุนที่ค่อนข้างเยอะ ทำให้บริษัทประกันต้องจ่ายส่วนนี้มาก อาจลำบากเหมือนกัน ซึ่งปัจจุบันนี้การนำส่งเงินสมทบ แต่ละบริษัทเป็นผู้ดำเนินการ จัดทำหนังสือพร้อมเงินส่ง คปภ.โดยตรงทั้งก้อน” นางนุสรากล่าว

อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการแก้ไขประกาศหรือไม่นั้น นางนุสรากล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องพูดคุยร่วมกับนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. ก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่ เนื่องจากค่อนข้างกระทบการเงินของ คปภ.

แหล่งข่าวสมาคมประกันชีวิตไทยกล่าวว่า ตามประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราเงินสมทบ ที่บริษัทประกันชีวิตจะต้องนำส่งให้แก่ คปภ. ซึ่งประกาศไว้ ณ วันที่ 22 ม.ค. 2551 ระบุว่า การนำส่งเงินสมทบสำหรับกรมธรรม์ยูนิตลิงก์จะต้องส่งในอัตรา 0.1% ของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกและปีต่อไป ส่วนกรณีกรมธรรม์ยูนิตลิงก์แบบชำระครั้งเดียว ต้องนำส่งเงินสมทบในอัตรา 0.1% ของเบี้ยประกันภัยรับที่ชำระครั้งเดียวนั้น

นอกจากนี้ สำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตรูปแบบอื่น ๆ จะต้องนำส่งในอัตรา 0.3% ของเบี้ยประกันภัยรับปีแรก และนำส่งเงินสมทบอัตรา 0.15% ของเบี้ยประกันรับปีต่อไป

แหล่งข่าววงในธุรกิจประกันชีวิตกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในอดีตที่ยังไม่มีประกาศระเบียบปฏิบัติ จะเป็นเพียงการตกลงให้นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนเฉพาะส่วนที่เป็นโพรเท็กชั่นเท่านั้น ซึ่งช่วงนั้นมีเพียงเอไอเอที่เปิดขายเป็นรายแรก จึงยังไม่ได้มีการส่งส่วนที่เป็นอินเวสต์เมนต์ แต่เมื่อมีหลายบริษัทประกันเริ่มขายกันมากขึ้น ปรากฏว่าบางบริษัทประกันส่งไปทั้งก้อน ทำให้ คปภ.จะสั่งปรับเอไอเอฐานส่งผิด ทั้งที่ขณะนั้นยังไม่มีประกาศออกมาชัดเจน คปภ.จึงแก้ปัญหาโดยออกประกาศให้บริษัทประกันทั้งหมดต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนทั้งก้อน

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!