เงินริงกิตอ่อน ทุบการค้าชายแดนใต้ “ทัวร์มาเลย์” กำลังซื้อวูบ 20%

AFP PHOTO / MOHD RASFAN

ผู้ประกอบการท่องเที่ยว-การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย เจอหลายเด้ง เงินริงกิตอ่อนค่าขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนหนัก ดิ้นป้องกันความเสี่ยง ชี้คนมาเลย์เจอพิษเศรษฐกิจกำลังซื้อหด 20% ททท.ยอมรับจับจ่ายลด แต่ยอดนักท่องเที่ยวมาเลย์เข้าไทย 4 เดือนแรก 8% สร้างรายได้ 3.5 หมื่นล้าน

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตรา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการไทยที่เข้าไปทำธุรกิจในประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการนำเที่ยวนอกประเทศใน อ.หาดใหญ่ อ.สะเดา จ.สงขลา กำลังวิตกกังวลหนักจากปัญหาความผันผวนของค่าเงินริงกิตมาเลเซีย ที่อ่อนค่าลงมาต่อเนื่อง จากที่เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 10 บาท/ริงกิต ทยอยปรับลดลงมาอยู่ที่ 8-9 บาท/ริงกิต และล่าสุดวันที่ 7 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 7.55 บาท/ริงกิต นอกจากนี้ บางวันค่าเงินริงกิตอ่อนค่าลงรุนแรงถึง 5 สตางค์

รายย่อยป่วนริงกิตผันผวนหนัก

ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากได้จัดเพ็กเกจทัวร์ขายล่วงหน้า เช่น แพ็กเกจทัวร์ช่วงเทศกาลกินเจที่ อ.หาดใหญ่ จ.ภูเก็ต และ จ.ตรัง ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และชาวมาเลเซียจำนวนมากจะเข้ามาทำบุญร่วมกินเจในเดือน ต.ค. 2562 โดยโรงแรมหลายแห่งมียอดสั่งจองไว้ล่วงหน้าแล้ว 80% โดยเฉพาะย่านดาวน์ทาวน์ อ.หาดใหญ่ เมื่อเงินริงกิตผันผวนหนักทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจตามแนวพรมแดนไทย-มาเลเซีย ต้องหาทางป้องกันความเสี่ยง ด้วยการซื้อประกันความเสี่ยงค่าเงินในวงเงินจำกัด ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยที่เตรียมสำรองเงินไว้บริการลูกค้าก็บริหารจัดการด้วยการวางเงินโดยจำกัดปริมาณ และทำแบบวันต่อวัน

ทิ้งริงกิตหันถือบาท-หยวน

“ขณะนี้กลุ่มผู้ประกอบการกำลังเร่งหาทางนำเงินริงกิตออก หันมาถือเงินบาท เงินเหรียญสิงคโปร์ หรือเงินหยวนของจีนแทน ขณะที่กลุ่มค้าเงินมีการเคลื่อนไหวทำกำไร จากที่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลมาเลเซียจะประกาศลดค่าเงินริงกิตลง และมีการขายพันธบัตรกันอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับล่าสุดมีข่าววงในว่า ค่าเงินริงกิตอาจจะอ่อนค่าลงถึง 4 ริงกิต/ดอลลาร์สหรัฐ”

อ่วม ! ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน

นายซับบรี มะสะมัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท หาดใหญ่ เรนโบว์ แทรเวิล แอนด์ ทัวร์ จำกัด และอุปนายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการธุรกิจ และโดยเฉพาะผู้ประกอบการทัวร์นำเที่ยวภายในประเทศ และต่างประเทศ ต่างประสบปัญหาขาดทุนหลังค่าเงินริงกิตผันผวนและอ่อนค่าลงรุนแรง เนื่องจากการทำธุรกิจทัวร์เป็นการทำข้อตกลงล่วงหน้าถึง 3 เดือน เช่น เสนอราคาขายเทียบกับเงินบาทไว้ที่ 7.55 บาท/ริงกิต มาเลเซีย แต่เมื่อ 3 มิ.ย. 62 ค่าเงินริงกิตอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 7.44 บาท/ริงกิต เท่ากับเมื่อคิดเป็นเงินบาทขาดทุน น่าจะ 0.11 บาท/ริงกิต

ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่บางรายมีการถือครองเงินริงกิตไว้ในมือจำนวนมาก เพราะติดต่อค้าขายกับมาเลเซียประจำก็ประสบภาวะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนอย่างหนัก เช่น บางรายถือไว้ 50,000-60,000 เหรียญริงกิต ล่าสุดผู้ประกอบการธุรกิจ และผู้ประกอบการทัวร์บางรายแก้ปัญหาโดยใช้วิธีการเจรจา ขณะเดียวกันก็ป้องกันความเสี่ยงโดยการเสนอซื้อขายสินค้าและบริการป็นเงินบาท ธุรกิจของกลุ่มบริษัท หาดใหญ่ เรนโบว์ฯ ก็ประสบภาวะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกัน แต่เอาส่วนที่มีกำไรมาโปะจึงไม่มีปัญหา

นักท่องเที่ยวมาเลย์ยังเข้าไทยแต่กำลังซื้อหด

ด้านนายวิทยา แซ่ลิ่ม อดีตผู้ก่อตั้งสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดสงลา ผู้ประกอบการนำเที่ยวมาร่วม 40 ปี เปิดเผยว่า จากภาวะที่เงินริงกิต มาเลเซียที่อ่อนค่าต่อเนื่อง จากช่วงแรก ๆ ที่นายมหาธีร์ขึ้นเป็นนายกฯ ค่าเงินริงกิตเคยแข็งค่าที่ 8 บาท/ริงกิต แต่วันที่ 6 มิ.ย. 62 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 7.41 บาท/ริงกิต

ขณะที่โปรแกรมการจัดกรุ๊ปทัวร์ 3 วัน 2 คืน ขายไปล่วงหน้าที่ราคา 7.60-7.50 บาท/ริงกิต ขาดทุนทันที 500 บาทต่อกรุ๊ปทัวร์ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวเสี่ยงขาดทุน จึงเสนอให้เปลี่ยนเงินบาทไทยทันที ในวันสั่งจอง และให้ผู้ประกอบการค้าต่าง ๆ รักษามาตรฐานราคาสินค้าไว้อีกทางหนึ่ง

ยอดใช้จ่ายลดลง 20%

น.ส.จินตนา สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ตัวเลขของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในพื้นที่ จ.สงขลา โดยเฉลี่ยชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาที่ จ.สงขลา 2 ล้านกว่าคน/ปี ส่วนใหญ่มาพักและท่องเที่ยว อ.หาดใหญ่ และจังหวัดใกล้เคียง ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน 400 ริงกิต/คน หรือประมาณ 4,000 บาท/คน

ตั้งแต่เงินริงกิตอ่อนค่าลง ได้หารือกับผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร พบว่านักท่องเที่ยวมีกำลังซื้อลดลง ระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น คาดว่าเม็ดเงินในการจับจ่ายจะลดลงประมาณ 20% แต่ปริมาณนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เข้ามาสงขลาจะไม่ลดลง แถมมาเพิ่มขึ้นอีก 5% เพราะสะดวก ค่าใช้จ่ายไม่สูง เมื่อเทียบกับการไปท่องเที่ยวประเทศอื่น ๆ เช่น สิงคโปร์ ฯลฯ

ชี้เศรษฐกิจมาเลย์ปัญหาหลัก

ด้านแหล่งข่าวจากบริษัทนำเที่ยวรายหนึ่งเปิดเผยว่า ประเด็นปัญหาค่าเงินริงกิตอ่อนค่าลงส่งผลต่อธุรกิจนำเที่ยวมานานแล้ว เนื่องจากทำให้ต้นทุนการเดินทางท่องเที่ยวของคนมาเลเซียมาไทยเพิ่มสูงขึ้น ที่สำคัญการซื้อขายระหว่างกันก็เป็นเงินริงกิต ทำให้รายได้ของผู้ประกอกการนำเที่ยวหายไปบางส่วน แต่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายหลัก ๆ ส่วนใหญ่จะคำนวณตัวเลขรายได้-กำไรไว้ในอัตราที่สามารถป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในหลักการทำธุรกิจยังคงไม่สามารถปรับขึ้นราคาขายได้มากนัก เนื่องจากการแข่งขันรุนแรง ทุกบริษัทจึงต้องมีสูตรคำนวณสำหรับการขายล่วงหน้า 3 เดือน และ 6 เดือนไว้ค่อนข้างชัดเจน

“ช่วงปี 2 ปีก่อนแม้ค่าเงินริงกิตจะอ่อนค่าลงต่อเนื่อง แต่พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง แต่ปีนี้เริ่มเห็นว่าตลาดเริ่มนิ่ง เราจึงประเมินว่านอกจากประเด็นเรื่องค่าเงินแล้ว ปัจจัยลบที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่ง คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจในมาเลเซียเอง”

ทั้งนี้ จากรายงานของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-เมษายน) มีจำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยรวมทั้งสิ้น 1,244,710 คน เพิ่มขึ้น 8.76% สร้างรายได้คิดเป็นมูลค่ารวม 35,144 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.61%