หุ้นร่วงหนักกว่า 30 จุด เหตุสงครามการค้า-ชุมนุมฮ่องกงกดดัน

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 13 ส.ค.62 ว่าปิดลบที่ดัชนี 1,620.23 จุด ลดลงกว่า 30.41 จุด หรือลดลง 1.84% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 64,186.02 ล้านบาท โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย สาเหตุเนื่องจากเงินทุน (Flow) ไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย จากปัจจัยภายนอกที่ยังส่งผลกดดันตลาด ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และการชุมนุมที่ฮ่องกง ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญกับแรงขาย “Sell on Fact” ส่งผลให้ตลาดปรับฐานในวันนี้

ทั้งนี้ กลุ่มที่ปรับลดลงนำตลาด ได้แก่ กลุ่มพลังงาน กดดันตลาด 7.98 จุด กลุ่มค้าปลีก 4.63 จุด และกลุ่มขนส่ง โดยเฉพาะ AOT กดดัน 3.45 จุด

ขณะที่มุมมองต่อตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.62) ประเมินแนวรับแรกที่ 1,615 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,600 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,630 จุด เนื่องจากยังไร้ประเด็นใหม่ๆ เข้ามากระทบกับตลาดหุ้นในตอนนี้ ทั้งนี้ จะต้องติดตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่จะมีการหารือกันในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันที่ 20 ส.ค.62 โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว การประกันราคาสินค้าเกษตร และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นต้น

ด้านกลยุทธ์การลงทุน ท่ามกลางสภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวนแนะนำลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รวมถึงมีการจ่ายเงินปันผล ได้แก่ MCS ให้ราคาเหมาะสม 11.30 บาท/หุ้น และ ROBINS ให้ราคาเหมาะสม 70.00 บาท/หุ้น โดยประเมินว่าผู้ลงทุนจะได้รับส่วนต่างกำไรประมาณ 5.5% จากระดับราคาปัจจุบันที่ 63.00 บาท/หุ้น ขณะที่ราคาเทรเดอร์ (Tender Offer) เพื่อสวอปหุ้นอยู่ที่ 66.50 บาท/หุ้น