“บล.กรุงศรี” หวั่นสหรัฐฯ ไต่สวนถอดถอนทรัมป์-สงครามการค้ากระทบ SET อ่อนตัวทดสอบ 1,620 จุด ลุ้นกนง.หั่นดอกเบี้ยเซอร์ไพรส์ตลาดวันนี้
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยเช้าวันที่ 25 ก.ย.62 ว่า มีมุมมองเป็นลบคาดดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) อ่อนตัวทดสอบแนวรับ 1,620 – 1,625 จุด จากปัจจัยภายนอกที่กดดันหลังประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ เปิดฉากไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ออกจากตำแหน่งฐานติดต่อกับรัฐบาลต่างชาติให้แทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ รวมถึงความกังวลการเจรจาการค้าสหรัฐฯ กับจีนจะสะดุดลง เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวโจมตีจีนในการประชุม UN ว่าทำการค้าไม่เป็นธรรมและจะไม่ยอมรับข้อตกลงที่ทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบ
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงจากความกังวลข้อพิพาทการค้ากระทบความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก รวมถึงฟันด์โฟลว์ (Fund Flow) ต่างชาติยังคงมีแนวโน้มไหลออกต่อเนื่อง โดยขายสุทธิ 8.8 พันล้านบาท ตั้งแต่ 1 ก.ย.62 ถึงปัจจุบัน (MTD) ยังคงกดดันต่อภาวะตลาดในช่วงนี้ ดังนั้นแนะนำรอซื้อเล่นรีบาวด์ช่วงอ่อนตัวเช่นเดิม
ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้อาจมี “Positive surprise” ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% โดยมติ (consensus) ส่วนใหญ่คาดว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% ตามเดิม อย่างไรก็ตาม บล.กรุงศรีมองต่างโดยคาดว่าที่ประชุม กนง.อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% เป็น 1.25% จากการเปลี่ยนแนวทางดำเนินนโยบาย “รับเป็นรุก” เพื่อสกัดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ และช่วยลดแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับภาคส่งออก หาก กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจริงจะเป็นเซนติเมนต์บวกให้กับตลาดและจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อ กลุ่มการเงิน (Finance) และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (Property) แต่จะเป็นลบต่อกลุ่มธนาคาร (BANK)
ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเลือกลงทุนรายตัว (Selective Buy) ในกลุ่มท่องเที่ยว ERW และ MINT และกลุ่มส่งออก GFPT และ TU อานิสงส์ครม.เศรษฐกิจจะพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการส่งออกและท่องเที่ยวในวันที่ 7 ต.ค.62 กลุ่มเครื่องดื่ม SAPPE และ IPCO อานิสงส์ครม.เห็นชอบลดภาษีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพผสมคอลลาเจนเหลือ 10% จากเดิม 14% ส่วนน้ำผักและผลไม้ลดภาษีเหลือ 3% จากเดิม 10% กลุ่มไฟแนนซ์ MTC, SAWAD และ THANI ได้ประโยชน์ต้นทุนลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง
รวมถึงแนะนำหุ้นกลุ่มปลอดภัย (Defensive stock) ได้แก่ AOT, INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, BGRIM, TTW และ CPALL