ค่าเงินบาทผันผวนในกรอบ หลังธนาคารแห่งประเทศไทยคงอัตราดอกเบี้ย

แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 25 กันยายน 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (25/9) ที่ระดับ 30.55/56 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันอังคาร (24/9) ที่ระดับ 30.56/57 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการประชุมจากคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งในช่วงบ่ายของวัน (25/9) ได้ประกาศให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปีตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ ด้วยมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0

โดยคณะกรรมการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าระดับที่ร้อยละ 2.8 ต่ำกว่าระดับที่ประเมินไว้ว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.3 จากการส่งออกที่ลดลงตามเศรษฐกิจคู่ค้าและปริาณการค้าโลกที่ชะลอลงจากการกีดกันทางการค้าซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้างมากขึ้น ขณะที่วัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับอุปสงค์ภายในประเทศ การบริโภคภาคเอกชนมีแนวดน้มชะลอลง จากรายได้และการจ้างงานที่ปรับลดลงโดยเฉพาะในภาคการผลิตเพื่อส่งออก พร้อมกับมีแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ถึงแม้จะมีการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

อย่างไรก็ดี การย้ายฐานการผลิตของบริษัทต่างชาติมายังประเทศไทยและโครงการร่วมลงทุนของรัฐและเอกชนในโครงสร้างพื้นฐานจะช่วยสนับสนุนการลงทุนในระยะต่อไป นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของทั้งปี 2562 มีแนวโน้มอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ตามเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวดน้มชะลอลงตามแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่ปรับลดลง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปี 2563 สำหรับภาะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ผ่อนคลาย สภาพคล่องในระบบการเงินยังอย่ในระดับสูง อีกทั้เสถียรภาพระบบการเงินได้รับการดูแลไปแล้วบางส่วน อย่างไรก็ดี คณะกรรมการยังมีความกั’วลต่อสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าคู่แข่ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากขึ้นในภาวะที่ความเสี่ยงด้านต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น

ดังนั้นคณะกรรมการจะติดตามการพัฒนาของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพ ระบบการเงิน รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ โดยเฉพาะผลกระทบของการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไป ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 30.52-30.61 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.54/56 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (25/9) ที่ระดับ 1.1009/10 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (24/9) ที่ระดับ 1.0986/90 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของสหรัฐสูงขึ้น หลังเมื่อคืนวาน (24/9) ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศเริ่มกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการ เพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายฮันเตอร์ ไบเดน ซึ่งประกอบธุรกิพลังงานอยู่ในยูเครน โดยนายฮันเตอร์เป็นบุตรของนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของประธานาธิบดีทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยหน้า โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.0991-1.1023 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1000/02 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

Advertisment

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (25/9) ที่ระดับ 107.15/18 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตั;แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (4/9) ที่ระดับ 107.69/71 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ เงินเยน
แข็งค่าขึ้นหลังนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ และนายทาโร อาโสะ รองนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ออกมายืนยันว่า ข้อตกลงการค้าทวิภาคีที่จะมีการสรุปร่วมกันนั้น จะเป็นต้นแบบของ “ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เป็นธรรมและเป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน” ซึ่งฝ่ายบริหารของทรัมป์พยายามทำข้อตกลงเพื่อลดการขาดดุลทางการค้ากับญี่ปุ่น โดยเรียกร้องให้ตลาดญี่ปุ่นเปิดรับผลิตภัณฑ์จากสหรัฐ อาทิ เนื้อวัว เนื้อหมู ข้าวสาลี และผลิตภัณฑ์นม เพิ่มมากขึ้น โดยภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่ ญี่ปุ่นจะปรับลดภาษีนำเข้าของสินค้าเกษตรจากสหรัฐ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ให้อยู่ในระดับเดียวกับในกรอบข้อตกลง TPP ที่มีการทบทวนใหม่และมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนธันวาคม หลังจากที่สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าวเมื่อปี 2560 อย่างไรก็ตาม สหรัฐมีแนวโน้มว่าจะไม่ปรับลดภาษีรถยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่นและชิ้นส่วนรถ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 106.98-107.42 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 107.28/30 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจ ในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนสิงหาคม (25/9), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐ (26/9), ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2562 (26/9), ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนสิงหาคม (27/9), การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนสิงหาคม (27/9) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยายนจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (27/9)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.70/-1.50 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -1.50/-0.30 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ