นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำหรับผลการประเมิน Financial Sector Assessment Program (FSAP) ปี 2561-2562 ด้านการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย ทางคณะผู้ประเมินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund – IMF) และธนาคารโลก (World Bank) ได้ประเมินตามกติกาที่ทางสมาคมผู้กำกับดูแลธุรกิจประกันภัยนานาชาติ (IAIS) ซึ่งเป็นผู้กำหนดมาตรฐานสากลของ Insurance Core Principles (ICP) ไว้ทั้งหมด 26 ข้อ โดยผลการประเมินจำนวน 10 ข้ออยู่ในเกณฑ์ดีมาก (Observed) อาทิ
– บุคลากรของสำนักงาน คปภ. มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยที่ดี มีประสิทธิภาพ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
– คปภ.ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลโดยมีกฎระเบียบการบังคับใช้กฎหมายครบถ้วนในหลายประเด็น ดังนี้
– การแลกเปลี่ยนข้อมูลและการเก็บรักษาข้อมูลความลับ
– บรรษัทภิบาล การกำกับด้านการบริหารความเสี่ยงของบริษัท
– การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ หนี้สิน ทุนสำรองประกันภัยและการลงทุน
– การต่อต้านการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
– การกำกับดูแลเสถียรภาพระดับมหภาคในธุรกิจประกันภัย
– การกำกับดูแลแบบรวมกลุ่ม (Group-wide supervision) และการประสานความร่วมมือในการกำกับดูแล และจำนวน 12 ข้ออยู่ในเกณฑ์ดี อาทิ
– กรอบการกำกับดูแลของสำนักงาน คปภ.มีการพัฒนาอย่างมาก และมีประสิทธิภาพในประเด็นต่างๆ เช่น
– ผู้กำกับดูแลและอำนาจหน้าที่
– การตรวจสอบบริษัท
– การบังคับใช้กฎหมาย
– การกำกับคนกลางประกันภัย
– การกำกับพฤติกรรมทางการตลาด
– การดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง
แต่ทั้งนี้จะมีอยู่ 4 ข้อจัดอยู่ในเกณฑ์พอใช้ อาทิ
– การประสานงานและความร่วมมือข้ามพรมแดนในการจัดการภาวะวิกฤต
– การให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ
– การเปลี่ยนแปลงอำนาจการบริหารและการถ่ายโอนธุรกิจ
– คุณสมบัติและความเหมาะสมของบุคลากรของบริษัทประกันภัย ที่อาจจะต่ำกว่ามาตรฐาน
“ถ้าเทียบภาคประกันภัยทั้งโลกในกรอบการกำกับดูแลภาคธุรกิจประกันภัย ประเทศไทยได้เป็นลำดับที่ 4 และเป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากสิงคโปร์” นายสุทธิพลกล่าว
นอกจากนี้ทาง World Bank และ IMF ยังได้แนะนำว่าไทยมีบริษัทประกันวินาศภัยค่อนข้างมาก อาจจะต้องควบรวมเพื่อให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น หรือแม้กระทั่งปัญหาการฉ้อฉลที่แนะนำให้ควรจะต้องมีศูนย์การแลกเปลี่ยนทางด้านข้อมูลฉ้อฉลประกันภัย (Fraud Database)