นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นไทย (28ต.ค.62) ว่า ผลกระทบจากการที่สหรัฐฯประกาศจะตัดสิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากรทางการค้า (GSP) ของประเทศไทยคงจะสร้างบรรยากาศเชิงลบและเป็นตัวถ่วงในภาคเช้าต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้ โดยไม่คิดว่าการปรับตัวลงของตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์จะรับรู้เรื่องนี้ไปแล้ว ฉะนั้นวันนี้อาจจะมีโมเม้นตัมการปรับลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการตัดสิทธิ์ GSP มูลค่าประมาณ 1.3 พันล้านเหรียญ อาจจะขึ้นภาษีในอัตราแค่ 4-5% ซึ่งมองว่าไม่น่าจะรุนแรงต่อภาคการส่งออกทั้งหมด โดยผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ไทยก็คงจะไม่ได้รับผลกระทบมาก เพราะหุ้นอย่าง TU ก็ไม่เคยได้รับสิทธิ์ GSP อยู่แล้ว ขณะที่ CPF เองอาหารทะเลส่วนใหญ่ใช้ฐานการผลิตจากต่างประเทศ
ทั้งนี้สิ่งที่น่ากังวลคือ โมเม้นตัมการขายเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกองทุนในประเทศที่มีการปรับพอร์ตลดน้ำหนักการลงทุนรุนแรงมาก ซึ่งยังไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงปรับ ซึ่งอาจจะมีเกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิคก็เป็นไปได้ เพราะจริงๆ แล้วภาพของกองทุนจะเป็นลักษณะค่อยๆ ทยอยขายมากกว่า
อย่างไรก็ตามมองดาวน์ไซต์หลุดจากระดับ 1,600 จุด เซนติเมนต์จะอยู่ที่ 1,575 จุด ซึ่งเป็นไปได้สูงมากที่ตรงนี้จะเป็นฐานแนวรับ ถ้าเอาไม่อยู่คงลำบาก แต่ไม่คิดว่าจะลงไปแย่ขนาดนั้น เพราะจะเป็นการสวนภาพตลาดโลกมากจนเกินไป ดังนั้นอาจจะปรับตัวลงแต่มีดาวน์ไซต์จำกัด ส่วนแนวต้านวันนี้คงจะไม่เกิน 1,600 จุด เนื่องจากการดีดตัวขึ้นยังไม่เห็นโมเม้นตัมอะไรเลย มีแต่ความกังวลเรื่องโมเม้นตัมขายที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้อาจจะมีหุ้นหลายๆ ตัวที่ปรับลงมากเกินไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นไปได้ที่จะเห็นการถูกซื้อคืนที่อาจจะเป็นตัวช่วยหนุนตลาด แต่ตลาดจะถูกถ่วงด้วยการเทขายหุ้นโรงไฟฟ้าอยู่ดีก็ต้องระมัดระวัง ฉะนั้นภาพรวมของตลาดถ้ามองดาวน์ไซต์จำกัดควรจะต้องเก็บหุ้นที่มีศักยภาพในการแข่งขันที่ดีในประเทศ เช่น CPALL-CENTEL-MINT-HMPRO