“คลัง” ถกผู้ประกอบการอสังหาฯ รับมือค่าโอน-จดจำนอง 0.01% หวังระบายสต๊อก3.5หมื่นยูนิต หนุนยอดขายปีหน้าโต5-7%

“คลัง” หวังมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ “ลดค่าโอน-จดจำนองเหลือ 0.01% ธอส.ออกสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัดวงเงิน 5 หมื่นล้าน” ช่วยระบายสต๊อก 3.5 หมื่นหน่วย คาดดันยอดขายปี’63 โต 5-7% เล็งถก ธปท.แก้เกณฑ์ LTV ผู้ประกอบการเสนอกู้ได้ 100% ไม่จำเป็นต้องเป็นบ้านหลังแรก

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดเผยหลังร่วมการประชุมทำความเข้าใจพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ว่า หลังจากที่มีมติเห็นชอบมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอน และการจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ เหลือ 0.01% ภายใต้มูลค่าการซื้อขายที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) วงเงิน 50,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก 2.5% ต่อปี คาดว่าจะช่วยระบายสต็อกของผู้ประกอบการที่มีอยู่ทั้งหมด 3.5 หมื่นหน่วย และดันให้ยอดขายของปีนี้เติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 1.96 แสนยูนิต และจะทำให้ปี 2563 อสังหาริมทรัพย์ขยายตัวได้ที่ 5-7%

พร้อมกันนี้จะเตรียมนำเรียน นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้รับทราบถึงข้อกังวลของผู้ประกอบการด้วย เนื่องจากหลังหารือร่วมกับภาคอสังหาริมทรัพย์พบว่า ผู้ประกอบการยังมีข้อกังวลในเรื่องการออกประกาศลดค่าโอนและจดจำนอง ขอให้เร่งทางกระทรวงมหาดไทยมีผลบังคับใช้โดยเร็ว อย่างไรก็ดีในเบื้องต้นเอกสารอยู่ในขั้นตอนกฤษฎีกา ซึ่งกระทรวงการคลังมีการประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยและติดตามอย่างต่อเนื่อง คาดว่าการออกประกาศกระทรวงมหาดไทยจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือน พ.ย.62 นี้

“หากมีการออกประกาศ และมีผลบังคับเต็มรูปแบบแล้ว กระทรวงการคลังจะมีการจัดแคมเปญร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เพื่อกระตุ้นยอดขาย และคาดว่าจะมีผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นยอดขาย และถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยรับทราบด้วย” นายชาญกฤชกล่าว

Advertisment

นอกจากนี้ ผู้ที่มีความสนใจอยากจะเข้าร่วมโครงการการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังกังวลในเรื่องของมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) จึงเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเร่งหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แก้ไขหลักเกณฑ์ LTV และผู้ประกอบการก็เสนอขอให้สามารถกู้ได้ 100% โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นบ้านหลังแรกเท่านั้น โดยจะนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต่อไป

นายชาญกฤชกล่าวว่า สำหรับที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในไตรมาส 4/62 ที่ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ตามเงื่อนไขของรัฐบาลกำหนดนั้นมีอยู่ 3.5 หมื่นหน่วย ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ตึกแถว, ทาวเฮาท์, ทาว์โฮม ซึ่งคาดว่าเมื่อ ธอส. สนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแล้ว จะมีธนาคารพาณิชย์หลายแห่งจัดสินเชื่อพิเศษออกมาในรูปแบบคล้ายๆ กัน ซึ่งจะส่งผลดีกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย

Advertisment

นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า แม้จะมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ออกมา ยังมองว่าสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ไม่น่าจะขยายตัว เนื่องจากยอดขายในช่วงไตรมาส 2-3 ที่ผ่านมาปรับลดลง เช่น คอนโดมิเนียมปรับลดลงถึง 20% ขณะที่ช่วงไตรมาส 2 บ้านจัดสรรอยู่ในระดับทรงตัว และคาดว่าในไตรมาส 3 อาจจะติดลบเล็กน้อย เนื่องจากธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเข้มงวดในเรื่องของการปล่อยสินเชื่อ ฉะนั้นหากไม่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เข้ามาจะส่งผลให้ยอดขายที่อยู่อาศัยในปี 2562 ขยายตัวเพียง 1.75 หมื่นหน่วย

ทั้งนี้ นายพรนริศ ชวนไชยสิทธ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า แม้จะมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอน และการจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ เหลือ 0.01% ออกมา แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ก็ไม่สามารถกระตุ้นยอดขายที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ยังมีประชาชนรอมาตรการดังกล่าวอยู่ ซึ่งผู้ประกอบการบางรายก็ได้ออกโปรโมชันสำรองการจ่ายโอนและจดจำนองให้กับลูกค้าตามอัตรารัฐกำหนด เพื่อจูงใจให้ลูกค้าเร่งโอนก่อน