ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ จับตาการประชุม กนง.พรุ่งนี้

แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (5/11) ที่ระดับ 30.20/22 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (4/11) ที่ระดับ 30.19/20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ตลาดจับตาความคืบหน้าของการเจรจาทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ โดยนายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่กรุงเทพฯว่า เขาเชื่อว่าทั้งสองประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในเฟสแรกได้ภายในเดือนนี้ และคาดว่าบริษัทในสหรัฐจะได้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายอุปกรณ์ให้กับบริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยีของจีนในเร็ววันนี้

นอกจากนี้รอสส์ยังกล่าวด้วยว่า รัฐไอโอวา อลาสก้า ฮาวาย หรือแม้กระทั่งในประเทศจีน ล้วนแต่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสถานที่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ใช้ในการลงนามข้อตกลงทางการค้าดังกล่าว ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.18-30.21 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.18/30.19 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยนักลงทุนเฝ้ารอการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่ามีโอกาสที่คณะกรรมการจะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 1.25%

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (5/11) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1125/27 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (4/11) ที่ระดับ 1.1160/62 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ภายหลังไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสเปน ปรับตัวลงสู่ระดับ 46.8 ในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง จากระดับ 47.7 ในเดือน ก.ย. ดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสเปนยังคงเผชิญภาวะหดตัว นอกจากนี้มาร์กิตยังเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของอิตาลี ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.7 ในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 47.8 ในเดือน ก.ย. โดยดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้่า ภาคการผลิตของอิตาลียังคงอยู่ในภาวะหดตัวเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1113-1.1140 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.128/30 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (5/11) เปิดตลาดที่ระดับ 108.73/75 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (4/11) ที่ระดับ 108.39/40 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ การส่งสัญญาณความคืบหน้าในแง่บวกของการเจราการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ช่วยลดความกังวลของนักลงทุนต่อสภาวะสงครามการค้า ทำให้นักลงทุนเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงและลดการถือครองสกุลเงินเยนลงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 108.56-108.90 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.87/89 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดุลการค้าเดือน ก.ย. (5/11), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน ต.ค.จากมาร์กิต (5/11), ดัชนีภาคบริการเดือน ต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานขอสหรัฐ (ISM) (5/11), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (7/11), ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือน พ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (8/11)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ 1.30/0.80 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.5/-0.1 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ