“คลัง” ชี้เศรษฐกิจไทยอยู่ในเกณฑ์ดี-คาดปี 2563 สงครามการค้าคลี่คลายส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้น

คลังเผยภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ย.62 เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้การส่งออกยังชะลอ คาดปี 2563 สงครามการค้าอาจคลี่คลาย ส่งผลให้ส่งออกไทยมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น

นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ในปี 2563 ปัจจัยที่น่าติดตามยังเป็นเรื่องของการส่งออก เนื่องจากคาดว่าปัจจัยต่างๆ ภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทย มีแนวโน้มจะคลี่คลายลง โดยเฉพาะสถานการณ์สงครามการค้า ซึ่งอาจส่งผลให้การส่งออกไทยกลับมาดีขึ้น หลังจากปีนี้ที่คาดว่าจะหดตัวที่ 2.5% ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน พ.ย.62 ยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจภายนอกประเทศส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าชะลอตัว อย่างไรก็ดี เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี

สำหรับการส่งออกในช่วงเดือน พ.ย.62 ยังชะลอตัว สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ชะลอตัวที่ร้อยละ -7.4 ต่อปี ซึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของการส่งออกในหมวดสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ ทองคำ ข้าว ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง กุ้งสดแช่แข็งและแปรรูป อย่างไรก็ตาม สินค้าในกลุ่ม ผัก ผลไม้ สด แช่แข็งและแปรรูป น้ำตาลทราย เครื่องดื่ม ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับที่ไม่รวมทองคำ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์รักษาผิว ยังคงขยายตัวได้

 

อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศในเดือน พ.ย.62 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 0.2 ต่อปี ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า โดยมีสาเหตุมาจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.5 ต่อปี สำหรับอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 1.1 ของกำลังแรงงาน สัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2562 อยู่ที่ร้อยละ 41.0 ต่อ GDP ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ส่วนเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2562 อยู่ในระดับสูงที่ 221.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ