ท่ามกลางปัจจัยลบที่กระหน่ำเข้ามาตั้งแต่ต้นปี ธุรกิจต่างต้องพยายามเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล โดย “ฐากร ปิยะพันธ์” ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ก็ได้ประกาศแผนการดำเนินธุรกิจปี 2563 นี้ที่จะขับเคลื่อนด้วยยุทธศาสตร์ “Game Changer”
ชู 5 กลยุทธ์พลิกเกมธุรกิจ
“ฐากร” เล่าถึงที่มาว่า ยุทธศาสตร์ “Game Changer” คิดขึ้นมาภายใต้บรรยากาศเศรษฐกิจที่ไม่มีข่าวดีตั้งแต่ต้นปี หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประชากรวัยทำงานลดลงกระทบกำลังซื้อ และรายได้บริษัทที่ลดลงจากกฎระเบียบของทางการที่ทยอยออกมา ตลอดจนการที่คู่แข่งมีจำนวนมากขึ้นในระบบ
- เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนพฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน เช็กที่นี่
- เช็กที่นี่ เบี้ยผู้สูงอายุ พฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน
- เช็กที่นี่ เบี้ยคนพิการ เดือนพฤษภาคม 2567 เงินเข้าพรุ่งนี้
“ปัจจัยเหล่านี้ จะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท หากยังทำธุรกิจในรูปแบบเดิมที่เน้นการปล่อยสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งต้องใช้คนจำนวนมาก และมีต้นทุนสูง”
ทั้งนี้ “Game Changer” ประกอบด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1.การขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาค ซึ่งบริษัทตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะมีรายได้จากต่างประเทศประมาณ 10% ของกำไรสุทธิจากปัจจุบันยังมีไม่ถึง 5%
“ในไตรมาส 2 นี้เราจะเริ่มดำเนินงานธุรกิจร่วมทุนในประเทศฟิลิปปินส์ ขณะที่ในปีที่ผ่านมาผลงานจากธุรกิจใน สปป.ลาวมียอดสินเชื่อคงค้าง 6,000 ล้านบาท ส่วนกัมพูชา 3.3 หมื่นล้านบาท”
2.ใช้แอปพลิเคชั่น UCHOOSE พลิกเกมการบริการ การตลาด และขยายฐานลูกค้า 3.ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน 4.นำข้อมูลมาใช้ในเชิงธุรกิจ และ 5.การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ภายในองค์กร ซึ่งมีเงินลงทุนราว 20 ล้านบาท เพื่อคัดเลือกไอเดียจากพนักงาน
“ทั้ง 5 องค์ประกอบเป็นการปรับตัวรับมือทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยใช้ AI และข้อมูล (data) ที่เรามีค่อนข้างมากมาใช้ในเชิงธุรกิจ ซึ่งเราตั้งเป้าทำให้เหนือคู่แข่ง โดยการนำมาวิเคราะห์ แบ่งประเภทลูกค้า การอนุมัติบัตร ยอดปฏิเสธสินเชื่ออยู่ที่จังหวัดไหน และมีหนี้มากน้อยแค่ไหน หรือแม้แต่ทำมาร์เก็ตติ้งแคมเปญที่เฉลี่ยจะมี 6,000 แคมเปญต่อปี ก็จะมาจากการใช้ AI ทำให้เราสามารถนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าชอบได้ถูกต้อง ถูกเวลา และถูกช่องทาง ภายในไตรมาส 3 จะนำ Manow Chabot มาใช้เพิ่มเติม จากปัจจุบันที่ใช้กับ call center”
ปรับโฉม UCHOOSE
“ฐากร” กล่าวว่า วันที่ 3 มี.ค.นี้จะเปิดตัวแอป UCHOOSE โฉมใหม่ โดยได้เพิ่ม 6 ฟีเจอร์ ได้แก่ 1.”U Like” เป็นฟีเจอร์แสดงข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละราย 2.”U Pay” ลูกค้าสามารถชำระเงินบัตรในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ และระยะต่อไปจะขยายไปยังธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ 3.”U Manage” ลูกค้าสามารถบริหารจัดการบัตรเครดิตได้ง่ายขึ้น ทั้งล็อกวงเงินที่ใช้ ประเทศที่ใช้ หรือกำหนดการผ่อนชำระ 4.”U Mall” ร่วมมือกับพันธมิตรให้ลูกค้าช็อปปิ้งได้บนแอป 5.”U Card” เปิดบัญชีออนไลน์ เชื่อมระบบ national digital ID และขยายไปสู่การปล่อยสินเชื่อดิจิทัล และ 6.”U Insure” ลูกค้าสามารถซื้อประกันเดินทาง และประกันรถยนต์ โดยสามารถเปรียบเทียบความคุ้มครองและเบี้ยประกันได้หลากหลายค่าย
“เป้าหมาย คือ บริษัทจะใช้ UCHOOSE เป็นฐานในการดึงฐานลูกค้าในการต่อยอดการใช้ผลิตภัณฑ์ของธนาคารกรุงศรี ซึ่งปัจจุบันฐานลูกค้า UCHOOSE ประมาณ 30% มีบัญชีธนาคารกรุงศรี ส่วนที่เหลือยังไม่ได้ใช้บริการ จึงเป็นโอกาสที่จะขยายฐานการใช้บริการให้มากขึ้น โดยหลังจากขยาย 6 ฟีเจอร์ใหม่ เป้าหมายฐานลูกค้า UCHOOSE ในปี 2563 จะอยู่ที่ 6 ล้านราย จากปี 2562 มียอดผู้ใช้อยู่ที่ 4.8 ล้านราย”
คุม DSR ยอดบัตรใหม่วูบ
“ฐากร” บอกว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทอนุมัติบัตรใหม่ไป 9.78 แสนบัญชี เติบโต 24% จากปีก่อนหน้า มีสเปนดิ้งบัตรเครดิตที่ 3.3 แสนล้านบาท โต 10% ขณะที่ยอดสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 1 แสนล้านบาท โตขึ้น 14% ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างรวมอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท เติบโต 11% ซึ่งสินเชื่อจะแบ่งเป็นบัตรเครดิต 45% และสินเชื่อส่วนบุคคลอีก 55%
ส่วนปี 2563 นี้หลังบริษัทมีการคุมสัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) ที่ 70% คาดว่าจะทำให้ยอดอนุมัติบัตรใหม่ลดลง 10% หรือยอดทั้งปีอยู่ที่ 8.9 แสนใบ เนื่องจาก DSR จะช่วยคัดกรองกลุ่มลูกค้าที่มีภาระหนี้สูงออกไป
อย่างไรก็ดี ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดใช้จ่ายผ่านบัตร (สเปนดิ้ง) อยู่ที่ 3.55 แสนล้านบาท เติบโต 8% โดยตั้งเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่ที่ 1.11 แสนล้านบาท เติบโต 11% และสินเชื่อคงค้างเพิ่มเป็น 1.59 แสนล้านบาท เติบโต 6% ขณะที่แนวโน้มเอ็นพีแอลปีนี้มีโอกาสขยับเพิ่มขึ้น 0.30%
แม้จะตั้งเป้าโตลดลง แต่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยปัจจัยลบ ก็ต้องถือว่ายังไปได้สวยอยู่
