นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันที่ 9 เม.ย.63 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) เปิดบวกในภาคเช้าตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับขึ้นจากปัจจัยการเมืองในประเทศ หลังจากที่ นายเบอร์นี แซนเดอร์ส ประกาศถอนตัวออกจากการเป็นผู้ท้าชิงประธานาธิบดีสหรัฐ
ทั้งนี้ นโยบายหาเสียงของ นายเบอร์นี ค่อนข้างเป็นลบต่อตลาดหุ้น เช่น นโยบายภาษีการลงทุนในตลาด นโยบายเก็บภาษีคนรวย และนโยบายสุขภาพถ้วนหน้า (Medicare for All) เป็นต้น ส่งผลให้หลังการถอนตัวหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มการแพทย์ปรับขึ้นราว 4-5%
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจัยการประชุมของกลุ่มโอเปกวันนี้ ตลาดหุ้นคาดหวังการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงประมาณ 10 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งหากผลประชุมออกมาในโทนบวกจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับขึ้นจากระดับปัจจุบันที่ 20-30 ดอลลาร์/บาร์เรล ไปอยู่ที่ 25-35 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม หากผลการประชุมออกมาตรงกันข้ามกับที่คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบอาจปรับลดลงได้เช่นกัน
ในส่วนของทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ประเมินแนวต้านไว้ที่ 1,238 จุด โดยชี้ว่าหากดัชนีขึ้นไปปิดแนวต้านที่ประเมินเอาไว้อาจเห็นแรงขายเชิงเทคนิคออกมา ขณะที่ส่วนแนวรับวันนี้ให้ไว้ที่บริเวณ 1,200 จุด เป็นแนวรับจิตวิทยา และแนวรับถัดมาที่ 1,180 จุด
นายวิจิตรกล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ SET Index เคลื่อนไหวอยู่บนความคาดหวังการประชุมโอเปก รวมถึงใกล้เข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/63 และใกล้เข้าสู่ช่วงสุดสัปดาห์ ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ยังไม่แนะนำให้ซื้อไล่ราคา และควรซื้อขายทำกำไรให้จบในวันเดียว ขณะที่ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะนำให้รอผลการประชุมโอเปกมีความชัดเจนออกมาก่อน โดยกลุ่มที่ยังแนะนำลงทุน ได้แก่ กลุ่มอาหาร เช่น OSP และ CBG ฯลฯ รวมถึงกลุ่มโรงพยาบาล เช่น CHG เป็นต้น
