ก.ล.ต.เพิ่มประเภทธุรกิจทดสอบ Sandbox คลุมทุกกิจกรรมตลาดทุน เริ่ม 16 ส.ค.

ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการทดสอบและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการให้บริการในตลาดทุน (Regulatory Sandbox) โดยเพิ่มประเภทธุรกิจที่เข้าโครงการครอบคลุมทุกกิจกรรมในตลาดทุน มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.2563 หวังครอบคลุมนวัตกรรมตั้งแต่กระบวนการก่อนไปจนถึงภายหลังการซื้อขาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตลาดทุนไทย

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2563 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการทดสอบและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการให้บริการในตลาดทุน (Regulatory Sandbox) มีผลตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2563 โดยได้เพิ่มประเภทธุรกิจที่เข้าโครงการได้ให้ครอบคลุมทุกกิจกรรมในตลาดทุน ตั้งแต่กระบวนการก่อนไปจนถึงภายหลังการซื้อขาย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจที่มีนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนเข้าทดสอบการให้บริการกับลูกค้าได้จริง โดยยังไม่ต้องรับใบอนุญาตและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในระดับที่เหมาะสมกับช่วงการทดสอบ เช่น มีระบบงานตามมาตรฐาน จำกัดจำนวนลูกค้า และจำนวนเงินลงทุนของลูกค้าแต่ละราย

สืบเนื่องจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ Regulatory Sandbox เมื่อต้นปี ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่ ก.ล.ต. ได้กำหนดให้ 4 กลุ่มธุรกิจที่เข้าทดสอบภายใต้โครงการ Regulatory Sandbox โดยเพิ่มประเภทธุรกิจใหม่ ๆ ดังนี้

1.กลุ่มตัวกลาง ได้แก่ ธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทที่ปรึกษาการลงทุน และการจัดการกองทุนส่วนบุคคล ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทตัวแทนซื้อขาย ค้า ที่ปรึกษา และจัดการเงินทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และเพิ่มการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ค้าหลักทรัพย์ จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ การจัดการกองทุนรวม และการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL)

2.กลุ่มกระบวนการ KYC ได้แก่ กระบวนการรวบรวมและประเมินข้อมูลของลูกค้า

3.กลุ่มบริการหลังการซื้อขาย ได้แก่ สำนักหักบัญชีหลักทรัพย์ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ นายทะเบียนหลักทรัพย์ และเพิ่มสำนักหักบัญชีสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

4.กลุ่มบริการระบบซื้อขายผลิตภัณฑ์ ได้แก่ การให้บริการระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ (Electronic Trading Platform: ETP) และเพิ่มศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ และศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า