หุ้น-การเงิน

ขาขึ้นตลาดสินค้าสุขภาพ ตามกระแสใส่ใจตัวเอง

คอลัมน์ Smart SMEs

โดย สุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ ธนาคารกสิกรไทย

ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร ธุรกิจเพื่อสุขภาพก็ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก และยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้แต่ผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ผลักดันให้ตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ ในกลุ่มวิตามินและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงาม รวมถึงเครื่องมือ และอุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 140,000 ล้านบาท ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากผู้บริโภคมีพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ทำให้ความต้องการสินค้าแตกต่างกันไปด้วย

ดังนั้นผู้ประกอบการควรคัดสรรและนำเสนอสินค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง ซึ่งกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น มีดังนี้

1.วิตามินและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เนื่องจากผู้บริโภคใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น จึงให้ความสำคัญกับการดูแลเชิงป้องกันและเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย นอกจากนี้ ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปตามการขยายตัวของ Urbanization ใช้ชีวิตที่เร่งรีบ เวลาในการทำอาหารทานเองน้อยลง ต้องสรรหาวิตามินและอาหารเสริมมาทานมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายยังคงได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ ประกอบกับการหาซื้อวิตามินและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสะดวกมากขึ้นจากหลากหลายช่องทาง เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา ตัวแทนขายตรง รวมถึงช่องทางออนไลน์ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ในปี 2560 วิตามินและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมน่าจะมีมูลค่าตลาดประมาณ 60,000 ล้านบาท หรือขยายตัวเฉลี่ยประมาณร้อยละ 11.5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยความต้องการวิตามินและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ แต่จะต้องเน้นผลิตภัณฑ์ที่รับประทานง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เช่น เป็นแบบน้ำ หรือแคปซูลนิ่ม (Soft Gel) ซึ่งจะช่วยลดกลิ่นหรือรสชาติที่ไม่พึงประสงค์ได้

ทั้งนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ได้แก่

– กลุ่มบำรุงสุขภาพทั่วไป เช่น ช่วยในเรื่องของความจำ ระบบย่อยอาหาร การดูดซึม การไหลเวียนเลือด การนอนหลับ อาการอ่อนเพลีย บำรุงสายตา กระดูก กล้ามเนื้อ ฟัน บำรุงสมอง สายตา (อยู่หน้าจอโทรศัพท์มาก) กล้ามเนื้อ ไฟเบอร์ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย หรือดีท็อกซ์ล้างสารพิษ

– กลุ่มป้องกันและรักษาโรคที่มักเกิดกับผู้สูงอายุ เช่น โรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ คอเลสเตอรอล

– กลุ่มความงาม อาทิ บำรุงผิวพรรณ/เล็บ/ผม ลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดเซลลูไลต์

2.เครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ จากกระแสรักสุขภาพและความงาม รวมถึงการเติบโตของธุรกิจบริการด้านสุขภาพต่าง ๆ ที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้ตลาดเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์เป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มขยายตัว ได้แก่

– กลุ่มใช้แล้วทิ้ง เช่น ถุงมือยาง ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ หน้ากากอนามัย เข็มฉีดยา

– ครุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง แบ่งเป็น

ก.อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน ที่ต้องซื้อติดไว้ที่บ้าน เช่น รถเข็น ไม้เท้า ที่นอนป้องกันแผลกดทับ ชุดอุปกรณ์ทำแผล ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องเจาะวัดน้ำตาลในเลือด

ข.กลุ่มเครื่องมือทางศัลยกรรมความงาม เช่น เครื่องเลเซอร์ผิวหน้าประเภทต่าง ๆ เครื่องตรวจเช็กสภาพผิวหน้า เครื่องตรวจวัดระดับไขมัน เครื่องสลายไขมัน อุปกรณ์ผ่าตัด-ตกแต่งทางศัลยกรรม

ค.เครื่องมือทางทันตกรรม เช่น ชุดยูนิตทำฟันครบชุด เครื่องขูดหินปูน ชุดฟันเทียม ชุดรักษารากฟัน เคลือบฟัน

ถึงแม้ว่าตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพจะมีแนวโน้มขยายตัว แต่ก็ยังมีความท้าทายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า เพราะหากผู้บริโภครับรู้ว่าสินค้าไม่ได้คุณภาพและมาตรฐาน ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนไปใช้สินค้าแบรนด์อื่นได้ทันที

นอกจากนี้การแข่งขันที่สูงขึ้น ที่นอกจากจะแข่งกันเองในประเทศแล้ว ยังมีสินค้านำเข้า เช่น จีน มีจุดแข็งทางด้านราคา หรือญี่ปุ่น มีจุดแข็งทางด้านนวัตกรรมและคุณภาพของสินค้า ซึ่งผู้ประกอบการต้องเตรียมพร้อมรับมือ