ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเกณฑ์ชอร์ตเซล-ซิลลิ่ง/ฟลอร์ กลับเข้าสู่ระดับปกติ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาเป็นวันแรก นักวิเคราะห์ชี้หุ้นใหญ่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แนะซื้อ 8 หุ้นกลาง-เล็ก ผลกระทบชอร์ตเซลน้อย
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า มูลค่าการขายชอร์ต (Short Sales) เกณฑ์ปกติวันแรก (1 ต.ค.63) เพิ่ม 3 เท่าตัว โดยวานนี้ตลาดหุ้นปรับเกณฑ์ Short Sales และเกณฑ์ราคาสูงสุด/ต่ำสุด (Ceiling & Floor) กลับมาเป็นปกติ ทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนมากขึ้นกว่าในช่วงก่อนหน้า
- เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนพฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน เช็กที่นี่
- เช็กที่นี่ เบี้ยผู้สูงอายุ พฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน
- เช็กที่นี่ เบี้ยคนพิการ เดือนพฤษภาคม 2567 เงินเข้าพรุ่งนี้
เริ่มจากปรับเกณฑ์ Short Sales เป็น Zero Plus Tick เป็นวันแรก ทำให้ปริมาณการ Short Sales เพิ่มขึ้นมากว่า 3 เท่า จาก 595 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 2.11 พันล้านบาท และมีหุ้น 10 อันดับแรกที่มีมูลค่าการ Short Sales มากสุด คือ KBANK, MINT, AOT, PTTEP, CPF, TRUE, PTT, GULF, BANPU และ GPSC
นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมี Momentum ในการ Short Sales มากขึ้นหลายเท่าตัว เมื่อเทียบกับปริมาณการ Short Sales ในวันก่อนหน้า ขณะที่ราคาน้ำมันลงแรงเกือบ 5% ในคืนที่ผ่านมา กดดันให้หุ้นน้ำมันมีโอกาสถูก Short Sales มากขึ้น ถือเป็นปัจจัยที่กดดัน SET Index ระยะสั้น
ขณะที่การปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor จาก +/- 15% เป็น 30% เป็นวันแรก ทำให้เริ่มหุ้นที่มีการแกว่งตัว +/- เกิน 15% บ้างแล้ว ดังนี้
ดังนั้น การปรับเกณฑ์ Short Sales และ Ceiling & Floor กลับมาเป็นปกติ มีส่วนทำให้ SET Index ผันผวน และกดดันการปรับตัวขึ้นได้ โดยเฉพาะหุ้นที่มีขนาดใหญ่ ดังนั้นกลยุทธ์แนะนำลงทุนในหุ้นขนาดเล็กพื้นฐานแข็งแกร่งที่ไม่ถูก Short Sales ดังนี้