“SEG” กลุ่มธุรกิจการเงิน “เจ้าสัวเจริญ” กำไรสุทธิ 9 เดือนวูบ 51.75%

เจ้าสัวเจริญ

ความมั่งคั่งลด! “SEG” กลุ่มธุรกิจการเงิน “เจ้าสัวเจริญ” กำไรสุทธิ 9 เดือนวูบ 51.75% จากธุรกิจประกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “SEG” ธุรกิจกลุ่มการเงิน ในเครือของ “เจ้าสัวเจริญ” หรือ “นายเจริญ สิริวัฒนภักดี” แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ถึงผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 โดยบริษัทมีกำไรสุทธิงวดไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 90 ล้านบาท ลดลง 219 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อน หรือลดลง 70.97%

เนื่องจากรายได้จากธุรกิจหลักลดลง 231 ล้านบาท มาจากการลดลงของรายรับรวมของธุรกิจประกันชีวิต เนื่องจากการลดลงของเบี้ยประกันชีวิตที่ถือเป็นรายได้จำนวน 184 ล้านบาท จากการลดลงของเบี้ยประกันรับปีแรก เบี้ยประกันรับปีต่อ และ เบี้ยประกันชีวิตรับประเภทชำระเบี้ยครั้งเดียวผ่านช่องทางธนาคาร

ขณะที่ในด้านค่าใช้จ่าย ในไตรมาส 3 ต้นทุนทางตรงลดลง 217 ล้านบาท มาจากการลดลงของผลประโยชน์จ่ายตามกรมธรรม์ประกันภัย และค่าสินไหมทดแทนสุทธิจำนวน 245 ล้านบาท จากธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันภัย ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 60 ล้านบาท จากการคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร

ขณะที่กำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 2563 อยู่ที่ 595 ล้านบาท ลดลง 639 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนหรือลดลง 51.75% เนื่องจากรายได้ธุรกิจหลักลดลง 1,168 ล้านบาท มาจากการลดลงของรายรับรวมของธุรกิจประกันชีวิต เนื่องจากการลดลงของเบี้ยประกันชีวิตที่ถือเป็นรายได้จำนวน 876 ล้านบาท จากเบี้ยประกันรับปีแรก เบี้ยประกันรับปีต่อ และ เบี้ยประกันชีวิตรับประเภทชำระเบี้ยครั้งเดียวผ่านช่องทางธนาคาร

และจากการลดลงของเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้สุทธิจำนวน 798 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการปรับประกันภัยรถยนต์ แต่ส่วนในธุรกิจลีสซิ่งมีการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสัญญาเช่าดำเนินงาน 243 ล้านบาท
ด้านค่าใช้จ่ายงวด 9 เดือน มีต้นทุนทางตรงลดลง 1,598 ล้านบาท มาจากการลดลงของเงินสำรองประกันภัยสำหรับสัญญาประกันภัยระยะยาว จากการรับประกันภัยประเภทชำระเบี้ยครั้งเดียวจากธุรกิจประกันชีวิต 1,036 ล้านบาท และ การลดลงของผลประโยชน์จ่ายตามกรมธรรม์ประกันภัยและค่าสินไหมทดแทนสุทธิ 486 ล้านบาท

ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานงวด 9 เดือน ลดลง 170 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร

บริษัทแจ้งด้วยว่า เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2563 โครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทได้ถูกปรับ โดยครอบครัวสิริวัฒนภักดีได้ขายหุ้นสามัญรวมทั้งสิ้น 562,207,942 หุ้น คิดเป็น 74.75% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทให้แก่ บริษัท ผลมั่นคงธุรกิจ จำกัด และ บริษัท อาคาเนย์แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของครอบครัวสิริวัฒนภักดี โดยการปรับโครงสร้างการถือหุ้นข้างต้น ไม่มีผลกระทบต่ออำนาจการควบคุมบริษัท นโยบายการดำเนินธุรกิจ และ โครงสร้างของคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหาร