ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกข้างระหว่าง 1,500 – 1,520 จุด ยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ที่ชัดเจน แต่บรรยากาศลงทุนเช้านี้อิงทางบวกได้บางส่วนจากความเห็น “เยเลน” ว่าที่ รมว.คลังคนใหม่ของสหรัฐมั่นใจแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดน
บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (19 ม.ค.64) ว่า คาดดัชนีเช้านี้แกว่งตัวออกข้างระหว่าง 1,500 – 1,520 จุด หลังยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ ๆ ที่ชัดเจน อย่างไรก็ดี บรรยากาศลงทุนเช้านี้อิงทางบวกได้บางส่วนจากความเห็นของนางเยเลน ว่าที่ รมว.คลังคนใหม่ของสหรัฐว่า U.S. must ‘act big’ ที่สะท้อนการออกมาตรการขนาดใหญ่ในการต่อสู้กับผลกระทบจากโควิด
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายวิจัยยังคาดการฟื้นตัวจะยังอยู่ในกรอบ และความผันผวนระหว่างทางจะทำให้ยังมีโอกาสที่จะลงมาทดสอบแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่บริเวณ 1,500 จุดอีกครั้ง แต่เชื่อว่าจะยังไม่หลุดแนวรับที่บริเวณดังกล่าว เพื่อรอดูพิธีสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำของ โจ ไบเดน ในช่วงกลางสัปดาห์
ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากเหตุเพลิงพื้นที่ใกล้เคียงอาคารรัฐสภาสหรัฐ ตอนนี้ยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ทำให้ว้นนี้อาคารรัฐสภาสหรัฐต้องปิดตัวลงชั่วคราว ทางฝ่ายวิจัยมองว่าต้องติดตามเหตุการณ์นี้อย่างใกล้ชิดและอาจเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อนการเข้ารับตำแหน่งของ นายโจ ไบเดน
ด้านแรงหนุนในสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มแผ่ว จาก Dollar Index ที่ส่งสัญญาณแข็งค่าขึ้นชัดเจน รวมถึงผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับตัวลดลงมาต่อเนื่อง ล่าสุดมาอยู่ที่บริเวณ 1.10% สะท้อนถึงความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีมากขึ้น อีกทั้งเริ่มเห็นฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติชะลอตัว โดยเริ่มตันสัปดาห์ต่างชาติขายสุทธิ 134 ล้านบาท ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเพียง 673 ล้านบาทเท่านั้น
ส่วนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ในประเทศอยู่ในแนวโน้มขาลง วานนี้ แม้ ศบค. จะรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 369 ราย แต่ถ้าดูที่จำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศจะพบเพียง 82 ราย ซึ่งยังถือว่าเป็นแนวโน้มที่ยังคงลดลงต่อเนื่อง ทางฝ่ายวิจัยมองว่าหลังจากนี้ด้วยการค้นหาเชิงรุกของภาครัฐ จะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง แต่ตัวเลขสำคัญที่น่าติดตามคือจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันภายในประเทศว่าจะมีแนวโน้มควบคุมได้หรือไม่
ปิดท้ายกับตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตาม โดยวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.64) ติดตาม 1.การประชุมธนาคารกลางจีน ตลาดคาดคงอัตราดอกเบีย LPR ที่ 3.85% และ 2.สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐ ตลาดคาดลดลง 2.266 ล้านบาร์เรล
