ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวเบา ๆ ในกรอบ 1,510 -1,530 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการ “เราชนะ-คนละครึ่ง”
บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (20 ม.ค. 2564) ว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวเบา ๆ ในกรอบ 1,510-1,535 จุด โดยได้แรงหนุนจากมาตรการภาครัฐ หลัง ครม.ไฟเขียว มาตรการเยียวยาโควิด-19 จำนวน 2 ชุด
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
คือ 1.”เราชนะ” ให้เงินเยียวยา 3,500 บาท เป็นจำนวน 2 เดือน โดยเริ่มลงทะเบียน 29 ม.ค.นี้ เบื้องต้น ครม.คาดว่ามีผู้เข้าร่วมโครงการ 31.1 ล้านคน หรือคิดเป็นวงเงิน 2.1 แสนล้านบาท และ 2.เปิดให้ลงทะเบียน “คนละครึ่ง” รอบเก็บตก 1.34 ล้านสิทธิ์ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาชน ล่าสุดจำนวนสิทธิ์ที่เปิดให้ลงทะเบียนเต็มอย่างรวดเร็วก่อน เวลา 06.30 น.
โดยทางฝ่ายวิจัยคาดมาตรการชุดนี้จะมีส่วนช่วยประคองทั้งเศรษฐกิจ และตลาดทุนได้ต่อแม้ตลาดจะรับรู้ประเด็นนี้ไปบางส่วนแล้วก็ตาม
นอกจากนี้คำแถลงต่อหน้าชั้นวุฒิสภาสหรัฐ ของนางเจเน็ต เยลเลน เมื่อคืนที่ผ่านมาได้สนับสนุนมาตรการชุดใหม่ของสหรัฐ และกล่าวว่ายังไม่ควรจะปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลในตอนนี้ เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญและเร่งอนุมัติมาตรการกระตุ้นชุดใหญ่ของโจ ไบเดน โดยเร็ว แต่นอกเหนือไปกว่านั้นเจเน็ต เยลเลน ได้ให้ข้อเสนอแนะไว้ว่าสหรัฐควรจะปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลเมื่อชาติอื่น ๆ ปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลแล้ว เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทสหรัฐสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
ดังนั้นทำให้เซนติเมนต์โดยรวมในตลาดหุ้นไทยยังเป็นบวก ประกอบกับนักลงทุนสถาบันเริ่มชะลอการขายลงบ้าง วานนี้พลิกซื้อสทุธิเกือบ 1.4 พันล้านบาท แต่ทางฝ่ายวิจัยคาดว่ายังมีโอกาสที่นักลงทุนสถาบันอาจขายทำกำไรออกมาอีกระลอกเพื่อเตรียมเงินไว้จองซื้อหุ้น PTTOR ที่จะเข้าไพีโอ
ส่วนปัจจัยที่ต้องติตตามต่อคือพิธีสาบานตนของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่อย่าง”นายโจ ไบเดน” ในคืนนี้ (เวลาประเทศไทย)
ขณะที่ กทม. ลุ้นผ่อนคลายสถานที่เสียง 21 ม.ค.นี้ หลังวานนี้ในที่ประชุม ศบค. โดย กทม.เผยว่า แนวโน้มผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯ เริ่มดีขึ้น และที่ประชุมได้มีการพิจารณาการผ่อนปรนมาตรการปิดสถานที่เสี่ยงใน กทม. ในเบื้องต้น ศบค. กทม.จะส่งให้คณะกรรมการโรคติตต่อพิจารณาต่อในวันที่ 21 ม.ค. นี้ หากได้ข้อสรุปชัดเจนจะแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป
