จับตาประธานเฟดแถลงนโยบายดันเงินบาทขยับอ่อนค่า 30.15 บาท

จับตาค่าเงินบาทหลังนโยบายเฟด
REUTERS/File Photo

แบงก์ประเมินกรอบเงินบาท 29.85-30.15 บาทต่อดอลลาร์ จับตาถ้อยแถลงประธานเฟด เผยหากมีมุมมองเศรษฐกิจฟื้นตัวดี เห็นดอลลาร์แข็งกดดันเงินขยับอ่อนค่าเล็กน้อย พร้อมเกาะติดตัวเลขส่งออกของไทนเดือนม.ค.

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (วันที่ 22-26 ก.พ.64) ประเมินกรอบเงินบาทอยู่ที่ 29.85-30.10 บาทต่อดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตามจะเป็นเรื่องแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อสภาครองเกส

ทั้งนี้ หากถ้อยแถลงมีมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการฟื้นตัวได้ดี จะส่งผลดอลลาร์มีแนวโน้มขยับแข็งค่า และผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ขยับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เงินบาทขยับอ่อนค่าได้ อย่างไรก็ดี หากเฟดมีมุมมองเศรษฐกิจยังไม่ฟื้ตัว และยังต้องดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อ จะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า และเงินบาทขยับแข็งค่าได้

ขณะที่ทิศทางเคลื่อนุทนเคลื่อนย้ายจะเห็นการเทขายทำกำไร ซึ่งต้องติดตามจะทวีความรุนแรงหรือไม่ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 15-19 ก.พ.) พบว่า ตลาดหุ้นมีการขายสุทธิอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท และตลาดพันธบัตรขายสุทธิอยู่ที่ 5,100-5,200 ล้านบาท อย่างไรก็ดี มองว่าแรงเทขายในลักษณะทำกำไรยังไม่มีนัยสำคัญต่อตลาด

“เราต้องรอดูประธานเฟดจะสื่อสารออกมาลักษณะไหน รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ เช่น ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และการประกาศตัวเลขจีดีพีในไตรมาสที่ 4 รวมถึงการใช้จ่ายส่วนบุคคลที่ต้องรอด เพราะจะมีส่วนช่วยเรื่อง Sentiment ของดอลลาร์ อย่างไรก็ดี แม้ว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น แต่เราคงไม่เห็นเงินบาทอ่อนค่าเยอะ ซึ่งเรามองว่ากรอบบน 30.10 บาทต่อดอลลาร์ยังเอาอยู่”

นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการสายงานวางแผนโกลบอลมาร์เกตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเงินบาทในสัปดาห์หน้าอยู่ที่ 29.90-30.15 บาทต่อดอลลาร์ โดยตลาดจะให้ความสนใจกับข้อมูลส่งออกนำเข้าเดือนมกราคมของไทย

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ จับตาประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) แถลงนโยบายต่อสภาฯ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และราคาทองคำในตลาดโลก

“สัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯหลายรายการออกมาดีเกินคาด แต่สภาวะอากาศหนาวอาจกระทบการกระจายวัคซีนบ้างในระยะนี้ ซึ่งรอดูการแถลงของประธานเฟด”