“สมคิด” สั่งสภาพัฒน์ผลักดันอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันปีหน้า

“สมคิด” สั่งสภาพัฒน์ผลักดันอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันปีหน้า หลังประสบความสำเร็จยกระดับอันดับความยากง่ายทำธุรกิจพุ่ง 20 อันดับ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เตรียมการผลักดันให้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ที่จัดอันดับโดย World Economic Forum (WEF) ให้มีอันดับดีขึ้นในปี 2561 จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 32 โดยให้นำแนวทางการทำงานที่ใช้ในการผลักดันจนกระทั่งธนาคารโลกจัดอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจของประเทศไทยดีขึ้นถึง 20 อันดับ จาก 46 มาอยู่ที่ 26 ซึ่งมีการประกาศเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (1 พ.ย.)

“การจัดอันดับของ WEF มี 12 เสาหลัก ที่ผ่านมาเราขยับแค่ 4 อันดับ แต่บทเรียนก็คือ ถ้าเราเอาจริงแต่ละเสาหลัก จัดการประชุมถี่ ติดตาม ก็จะทำให้หลายๆ อย่างขยับ แล้วถ้ามีการสื่อความเหมือนที่เชิญธนาคารโลกมาฟังปีละ 3-4 ครั้ง ให้เขารู้ว่าเราทำอะไร เขาจะได้ไม่นั่งหลับตาอยู่ต่างประเทศ ฉะนั้นก็ต้องเชิญ WEF มารับรู้” นายสมคิดกล่าว

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ไปดำเนินการไม่ให้คะแนนอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจตกลง โดยตัวชี้วัดที่คะแนนดีอยู่แล้วก็ให้ทำให้คะแนนไม่ตกลง ส่วนที่คะแนนยังไม่ดี ก็ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ สำหรับการจัดอันดับในปีนี้ พบว่าอันดับของประเทศไทยยังคงตามหลังประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย อยู่ 2 อันดับ ซึ่งในปีหน้า ไทยก็ต้องพยายามพัฒนาต่อไป

นายสมคิดกล่าวด้วยว่า อันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจของประเทศไทยดีขึ้น ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ก.พ.ร.ที่เป็นแม่งาน ขณะเดียวกันต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างจริงจัง ที่มีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลดล็อกให้ในหลายๆ เรื่อง