กรมบัญชีกลาง ออกเกณฑ์เบิกเงินค่ารักษาพยาบาลเกินสิทธิ์ เรียกเก็บเงินคืน ส่งเข้า “คลัง” เป็นรายได้แผ่นดิน เริ่มวันนี้ (3 พ.ค.) เป็นต้นไป
วันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมบัญชีกลาง บังคับใช้หลักเกณฑ์ กระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลเกินสิทธิ์และการเรียกคืนเงิน หลังพบกรณีมีผู้เบิกค่ารักษาพยาบาลเกินสิทธิ์ และมีพฤติกรรมเบิกจ่ายผิดปกติ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
สำหรับพฤติกรรมความผิดปกติในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล หลักเกณฑ์ดังกล่าว ประกอบด้วย
- ผู้มีสิทธิ์หรือบุคคลในครอบครัวเข้ารับการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอก ณ สถานพยาบาลของทางราชการแห่งเดียวหรือหลายแห่ง
- ผู้มีสิทธิ์ได้รับยาประเภทเดียวกันจนมีปริมาณยาสะสมเป็นจำนวนมาก เกินขนาดที่ให้ผลการรักษาในแต่ละโรค (Therapeutic Dose) หรือเกินกว่าจำนวนที่กรมบัญชีกลางกำหนด
หากพบความผิดปกติดังกล่าว กรมบัญชีกลาง จะดำเนินการระงับสิทธิ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลในระบบเบิกจ่ายตรงทันที และหากเข้าข่ายทุจริตหรือการกระทำความผิดทางอาญา หน่วยงานต้นสังกัดต้องดำเนินการทางวินัยหรือตามขั้นตอนของกฎหมายและเรียกคืนเงินจากผู้มีสิทธิ์ส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
แต่หากข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า เป็นการทุจริต กรมบัญชีกลางจะอนุญาตให้สามารถใช้สิทธิ์ในระบบเบิกจ่ายตรงประเภทผู้ป่วยนอก ณ สถานพยาบาลของทางราชการเพียง 1 แห่ง เพื่อเป็นการควบคุมพฤติกรรม
ต้นสังกัดพบทุจริต เรียกเงินคืน “คลัง” เป็นรายได้แผ่นดิน
ส่วนสถานพยาบาลของทางราชการ เบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิ์หรือบุคคลในครอบครัวในระบบเบิกจ่ายตรง โดยไม่ปรากฏข้อมูลในเอกสารว่า มารับบริการจริง ส่วนราชการต้นสังกัดต้องดำเนินการตรวจสอบ หากปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐมีพฤติกรรมทุจริตโดยใช้ระบบเบิกจ่ายตรงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ส่วนราชการต้นสังกัดต้องดำเนินการสอบสวนทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว และเรียกคืนเงินจากสถานพยาบาลของทางราชการแห่งนั้น
ส่วนราชการต้นสังกัดมีหน้าที่ติดตามเรียกคืนเงินที่เบิกเกินสิทธิ์จากผู้มีสิทธิ์ และนำเงินส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดิน หากไม่สามารถเรียกคืนเงิน ต้องมีการบังคับชำระหนี้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แล้วนำเงินส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดิน