“ยูโอบี” เปิดขาย 2 กองทุน RMF เกาะเทรนด์ฮอต “ESG-นวัตกรรม”

ตลาดหุ้น
ภาพ Pixabay

บลจ.ยูโอบี นำเสนอ 2 กองทุน RMF รับการลงทุนในกลุ่ม “หุ้น ESG-หุ้นนวัตกรรม” เชื่อสร้างโอกาสอัตราผลตอบแทนที่ดี เหมาะเป็นกองทุนสำหรับวางแผนเพื่อการเกษียณ เปิดเสนอขายครั้งแรก ในวันที่ 14 -18 มิ.ย.64 นี้

บลจ.ยูโอบี ได้นำเสนอกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ซัสเทนเนเบิล อิควิตี้ โซลูชั่น ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (USUSRMF) และกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินโนเวชั่น ฟันด์ – หน่วยลงทุนชนิดเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (UNIRMF) ตอบโจทย์นักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีแนวคิดการลงทุนด้านความยั่งยืนของธุรกิจ (Environment, Social and Governance : ESG) และกลุ่มหุ้นนวัตกรรม โดยเชื่อว่าหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการออมเพื่อการเกษียณพร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย

โดย USUSRMF มีระดับความเสี่ยง 6 กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน เป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ Allianz Global Investors Fund – Allianz Global Sustainability Share Class PT (USD) (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนหลักจัดตั้งและบริหารจัดการโดย Allianz Global Investors GmbH ผู้นำระดับโลกในด้านการบริหารการลงทุนอย่างยั่งยืน เป็นบริษัทจัดการที่เป็น 1 ใน 50 องค์กรแรกที่ลงนามร่วมกับ UNPRI (เครือข่าย ESG ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ) ตั้งแต่ปี 2550

โดยกลยุทธ์หลักในการบริหารงานลงทุนคือการผสมผสานการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทกับการวิจัยปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ในการคัดเลือกบริษัทที่ลงทุน เน้นบริษัทที่มีคุณภาพและมีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวสูง รวมทั้งพิจารณาบริษัทที่มีการยึดมั่นในการปรับปรุงการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG ที่ดี โดยบริษัทที่จะผ่านเกณฑ์นั้นจะต้องมีคุณสมบัติที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองตามหลักการการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ หรือ Sustainable and Responsible Investment Strategy (SRI Strategy) กองทุนหลักสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนย้อนหลังสามปี ณ 30 เมษายน 2564 อยู่ที่ 13.94% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานกองทุนที่ 13.21%

สำหรับ UNIRMF ระดับความเสี่ยง 6 กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน จะเน้นลงทุนใน United Global Innovation Fund Class A USD Acc (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว ซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งและบริหารจัดการโดย UOB Asset Management Ltd มีกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการคิดค้นนวัตกรรมทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อรองรับแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงของโลก หุ้นทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการคิดค้นนวัตกรรม หรือได้รับประโยชน์จากนวัตกรรม และมีการประเมินความน่าสนใจของหุ้นด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในเชิงลึกควบคู่กับการพิจารณา 4 ปัจจัยในการดำเนินธุรกิจ คือ Trend, Innovation, Barrier to Entry และ Risks

นอกจากนี้ กองทุนสามารถปรับน้ำหนักการลงทุนตามภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้ เพื่อมุ่งหวังโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) กองทุนหลักสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนย้อนหลังหนึ่งปี ณ 30 เมษายน 2564 อยู่ที่ 55.82% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานกองทุนที่ 45.75%

“บลจ. ยูโอบี มีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจโลกในระยะ 1 ปีข้างหน้า และจากการคาดการณ์เศรษฐกิจโลก GDP ในปี 2564 จะสามารถเติบโตได้ 6.0% เทียบกับคาดการณ์เดิมในเดือนมกราคม 2564 ที่ 5.5% (ที่มา IMF ณ เมษายน 2564)

ขณะที่การระบาดของไวรัสรอบใหม่ในหลายประเทศไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากในปัจจุบันการฉีดวัคซีน Covid-19 เริ่มกระจายไปทั่วโลก ส่งผลให้อัตราการติดเชื้อในอนาคตมีแนวโน้มลดลงอย่างมาก เป็นปัจจัยหลักที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะภาคการผลิตในกลุ่มประเทศส่วนใหญ่สามารถกลับมาขยายตัวได้แข็งแกร่ง แต่ภาคการบริการยังคงอ่อนแอ

ดังนั้นการฉีดวัคซีนที่ทั่วถึงจะทำให้ภาคการบริการฟื้นตัวและหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว จากปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะฟื้นตัวดังกล่าว จะเอื้อความน่าสนใจของตลาดหุ้นทั่วโลก จึงเป็นโอกาสที่ดีการเข้าลงทุนในช่วงนี้” นางสาวรัชดากล่าว