คลัง พร้อมฟื้น “ช้อปดีมีคืน” แต่ยังไม่กระตุ้นใช้จ่ายตอนนี้

ช้อปดีมีคืน

คลังพร้อมดึง “ช้อปดีมีคืน” กระตุ้นใช้จ่ายอีกครั้ง ชี้ต้องทำหลังโควิดจบ เหตุคนไม่ออกมาใช้จ่าย-ตอนนี้ซื้อแค่ของจำเป็นเท่านั้น เร่งเชื่อมระบบสแกนจ่าย “คนละครึ่ง เฟส 3” ผ่านฟู้ดดีลิเวอรี่ ต.ค.นี้ ยังไม่เพิ่มเงินโครงการ

วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า มาตรการของกระทรวงการคลังที่ออกมาเป็นส่วนสนับสนุนการกระตุ้นการบริโภคของประชาชน ฉะนั้น มาตรการเหล่านี้จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับเข้ามาใกล้สู่ภาวะปกติ โดยการที่จะนำเงินเข้าไปช่วยกระตุ้นการบริโภคที่อยู่ในช่วงล็อกดาวน์ จะทำให้มาตรการไม่ได้ผลเท่าที่ควร โดยมาตรการของกระทรวงการคลังดำเนินการไปจนถึงไตรมาส 4 ของปีนี้ ฉะนั้น หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดได้แล้วก็สามารถนำไปใช้ในไตรมาสที่ 4 ได้

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังก็จะมีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง หากสามารถควบคุมได้ และรัฐบาลต้องการเม็ดเงินจากฝั่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระทรวงการคลังก็สามารถพิจารณาในเรื่องการเพิ่มกำลังซื้อในโครงการต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้ว หรืออาจจะมองโครงการกรณีที่มีข้อเรียกร้องจากภาคเอกชน เสนอให้นำมาตรการ เช่น โครงการช้อปดีมีคืน ที่เคยดำเนินการเมื่อปี 2563 กลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งสามารถทำได้หากสถานการณ์ดีขึ้น

อย่างไรก็ดี หากพิจารณายอดขอคืนภาษีเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้เข้าร่วมมาตรการและขอคืนภาษีกับกรมสรรพากรเพียง 900,000 รายเท่านั้น ส่วนกระทรวงการคลังจะนำกลับมาใช้หรือไม่นั้น จะต้องติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดก่อน เพราะขณะนี้ประชาชนไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอย เนื่องจากกังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังรุนแรง ซึ่งการออกมาตรการดังกล่าวมาจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างปกติ มิฉะนั้นก็จะไม่มีคนออกมาจับจ่ายใช้สอย หรือประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยเฉพาะสิ่งที่ต้องการซื้ออยู่แล้ว

ขณะที่กรณีที่เรียกร้องให้พิจารณาเพิ่มวงเงินในโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มากกว่า 3,000 บาท ที่รัฐบาลกำหนดไว้นั้น ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาเพิ่มวงเงินแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด กระทรวงการคลังได้เร่งหารือกับผู้ให้บริการฟู้ดดีลิเวอรี่รายใหญ่ในไทย 5 แห่ง เช่น แกร็บ (Grab) โกเจ็ก (Gojek) เป็นต้น เพื่อเชื่อมโยงระบบต่าง ๆ ในการโอนเงินใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่ได้ โดยจะทำให้เกิดความโปร่งใสก่อนที่จะเริ่มให้ผู้มีสิทธิในโครงการคนละครึ่งใช้บริการฟู้ดดีลิเวอรี่เหล่านี้ ซึ่งจะทำให้ทันใช้จ่ายเดือน ต.ค.นี้

“เมื่อคุยเบื้องต้นกับฟู้ดดีลิเวอรี่ รวมทั้งเชื่อมโยงระบบคนละครึ่งที่ดูแลการรับโอนเงินเสร็จเรียบร้อย จะเรียกฟู้ดดีลิเวอรี่ทุกรายที่เข้าร่วมโครงการมาประชุมอีกครั้งเพื่อแจ้งรายละเอียดวิธีการดำเนินการและแนวทางปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อให้มีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งทุกอย่างจะเสร็จสิ้นก่อนเดือน ต.ค. 64 ซึ่งจะมีการโอนเงินครั้งที่สองของโครงการคนละครึ่ง จำนวน 1,500 บาท”