ราคาน้ำมันร่วง-ฟันด์โฟลว์ไหลออกกดดัน SET

หุ้น-ดอลลาร์-ขนส่ง-น้ำมัน

“บล.กรุงศรี” ประเมินหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัว 1,535-1,555 จุด รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันทรุดตัวกระทบเงินบาท-เงินต่างชาติไหลออก แนะนักลงทุนโฟกัสหุ้นรายตัวในกลุ่มส่งออก-งบฯ Q2 เติบโต ทั้งนี้จับตา กนง.หลังมีมติไม่ตรงกันในการคงอัตราดอกเบี้ยและตัวเลข GDP รวมถึงติดตามสหรัฐจะประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) และอัตราการว่างงานเดือน ก.ค. ในวันศุกร์ที่ 6 ก.ค.นี้

วันที่ 5 สิงหาคม 2564 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี หรือ บล.กรุงศรี คาดดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ แกว่งตัว 1,535-1,555 จุด โดยภาวะตลาดถูกแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงซึ่งเป็นลบต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรฯ รวมถึงยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องเป็นลบต่อเศรษฐกิจโดยรวม และส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงรวมถึงเม็ดเงินต่างชาติ (Fund flow) ไหลออก อย่างไรก็ตามแรงซื้อกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น กลุ่มส่งออก กลุ่มงบฯไตรมาส 2/64 เติบโตจะช่วงหนุนต่อภาวะการลงทุนได้

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ หลังงานนี้ (4 ส.ค.) การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เสียงไม่เป็นเอกฉันฑ์ มีมติ 4 : 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ตามเดิม และปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้าเหลือขยายตัว 0.7% และ 3.6% จากเดิมคาดโต 1.8% และ 3.9% เนื่องจากไวรัส Covid-19 ระบาดรุนแรงกว่าที่คาดและทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจป็นไปอย่างล่าช้า

ด้านน้ำมันดิบ WTI ร่วง 2 เหรียญ เหลือ 2.41 ดอลลาร์ หรือ -3.4% ราคาปิดที่ 68.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ผิดหวังการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) รายงานสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ซาอุฯ ยังปรับขึ้นราคา (OSP) ขึ้น 0.3 ดอลลาร์ เป็น 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในตลาดเอเชียเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย.เป็นต้นไป กระทบกลุ่มโรงกลั่นจากต้นทุนที่สูงขึ้นโดยเฉพาะ TOP หรือ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ที่นำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ติดตามสหรัฐจะประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) และอัตราการว่างงานเดือน ก.ค. ในวันศุกร์ที่ 6 ก.ค. ตัวเลขนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากแค่ใหน เพราะหากตลาดแรงงานสหรัฐแข็งแกร่งและอัตราการว่างงานลดลงจะเร่งให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยเป็นลบกับตลาด

บล.กรุงศรีแนะนำหุ้นน่าตับตาวันนี้ ได้แก่ EPG หรือ บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ราคาปิด 11.9 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อ/เป้าหมายราคาที่ 16 บาทต่อหุ้น คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/65 (เม.ย.-มิ.ย.) ที่ 420 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 4% เทียบไตรมาสก่อนหน้า (qoq) และ 454% เทียบไตรมาสเดียวกันปีก่อน (yoy) วันนี้ได้บรรยากาศ (Sentiment) บวกจากราคาน้ำมันดิบร่วงแรง และค่าเงินบาทอ่อนค่าเพราะมีรายได้จากการส่งออกคิดเป็น 60-70% ของรายได้รวม

และอีกตัวคือ SINGER หรือ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ราคาปิดที่ 44 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อ/เป้าหมายราคาตามการวิเคราะห์ (IAA Consensus) ที่ 50 บาทต่อหุ้น นับเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่ผลกำไรเติบโตชนะ Covid-19 และภาวะล็อกดาวน์ และคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2/64 จะยังพุ่งทำ All time high จากแรงหนุนของยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วง High season ขณะที่สินเชื่อ Car4 (C4C) เดินหน้าเติบโตตามยอดสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น