หุ้น-การเงิน

ดอลลาร์อ่อนค่า ตลาดจับตาการผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2560 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/11) ที่ 32.78/80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (17/11) ที่ระดับ 32.85/87 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17/11) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านใหม่ ประจำเดือน ต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.29 ล้านยูนิต จาก 1.14 ล้านยูนิตในเดือนก่อนหน้า และปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.19 ล้านยูนิต ส่วนการอนุญาตก่อสร้างเดือน ต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.30 ล้านยูนิต จาก 1.23 ในเดือนก่อนหน้า และปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.25 ล้านยูนิต นอกจากนี้ความคิดเห็นล่าสุดของเจ้าหน้าที่เฟดนั้น นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส คาดการณ์ว่าคณะกรรมการ FOMC จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. เนื่องจากอัตราว่างงานของสหรัฐปรับตัวลดลง ขณะที่นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก มองว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเขามองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม โดยในวันพรุ่งนี้ (21/11) นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก โดยตักลงทุนจับตาถ้อยแถลงดังกล่าว เพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจและแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้นักลงทุนยังจับตาการผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี หลังจากเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 227 ต่อ 205 ให้ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี และได้ส่งต่อให้กับวุฒิสภาเพื่อทำการพิจารณาเป็นลำดับต่อไป ส่วนการโหวตในวุฒิสภาแบบเต็มคณะ จะจัดขึ้นหลังจากพ้นเทศกาลวันหยุดขอบคุณพระเจ้า (23/11) ไปแล้ว ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 332.77-32.81 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.77/79 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ วันนี้ (21/11) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ไตรมาส 3 ปี 2560 ขยายตัว 4.3% สูงสุดในรอบ 18 ไตรมาส และถือว่าขยายตัวเร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้โดยรวมแล้วในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย. 2560) เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 3.8% นอกจากนี้สภาพัฒน์ได้ปรับคาดการณ์ GDP ของไทยทั้งปี 2560 เป็นขยายตัว 3.9% จากเดิมที่คาดไว้ในช่วง 3.5-4.0% และคาดการณ์ GDP ในปี 2561 จะเติบโตในช่วง 3.6-4.6%

สำหรับค่าเงินยูโรวันนี้ (20/11) เปิดตลาดที่ระดับ 1.1743/44 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (17/11) ที่ระดับ 1.1795/98 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17/11) ธนาคารกลางยุโรป รายงานตัวเลขดุลบ้ัญชีเดินสะพัด ประจำเดือน ก.ย. เกินดุล 37.8 พันล้านยูโร เกินดุลมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 30.2 พันล้านยูโร ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.720-1.1808 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1793/95 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับค่าเงินเยนในวันนี้ (20/11) เปิดตลาดที่ระดับ 112.10/12 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (17/11) ที่ระดับ 112.55/56 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยกระทรวงการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้า 2.854 แสนล้านเยนในเดือน ต.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่ยอดส่งออกในเดือน ต.ค. ปรับตัวขึ้น 14% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดนำเข้าเพ่ิ่มขึ้น 18.9% ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 111.87-112.21 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 112.15/18 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในช่วงต้นสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมนี (20/11) ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ (21/11) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ (22/11) ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (22/11) ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ (22/11) ตัวเลขยอดค้าปลีกของนิวซีแลนด์ (22/11

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.3/-1.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -5.0/-4.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ