เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)

หุ้น INTUCH ราคาวิ่งเกินพื้นฐาน โบรกฯตั้งข้อสังเกตสตอรี่คล้าย DELTA

หุ้น “INTUCH” ปิดตลาดสัปดาห์นี้ปรับตัวแตะ 83.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.46% ราคาเพิ่มขึ้น 3 วันติดต่อกัน “บล.กสิกรไทย” ตั้งข้อสังเกต “ราคาวิ่งเกินพื้นฐาน-สตอรี่คล้าย DELTA-ถูกดูดสภาพคล่องออกจากตลาด” เตือนนักลงทุนใช้ความระมัดระวังไล่หุ้น

 

วันที่ 28 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์(INTUCH) ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ทีี่ 27 ส.ค.64 ราคาปิดอยู่ที่ 83.25 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.46% จากวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน จากระดับราคา 77.50 บาท(+1.75% จากวันก่อนหน้า) มาสู่ระดับราคา 81.25 บาท(+3.25% จากวันก่อนหน้า) ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.-ปัจจุบัน(27 ส.ค.64) พบว่าราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 29.06%

นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากการตั้งข้อสังเกตราคาหุ้น บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์(INTUCH) ช่วงนี้ที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรง เบื้องต้นก่อนหน้าได้ประเมินปัจจัยหนุนมาจาก 3 ประเด็นหลักสำคัญซึ่งล้วนมาจากปัจจัยพื้นฐานคือ

1.บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์(GULF) สามารถซื้อหุ้นเพิ่มได้ถึงสัดส่วน 49.9% ภายใน 1 ปีที่ราคาไม่สูงกว่า 65 บาท ตามกฎระเบียบสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัยพ์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ซึ่งสนับสนุนให้ราคาหุ้นไม่ปรับตัวลง

3.การนำทรัพย์สินขายเข้าบริษัทให้เช่าเสาโทรคมนาคม(TowerCo) เพื่อนำเงินก้อนใหญ่ออกมา
ซึ่งวิเคราะห์ช่วงที่ราคาหุ้น INTUCH วิ่งอยู่ระดับ 70 บาท และประเมินราคาเป้าหมายที่ 74 บาท กรณีมีการประกาศนำทรัพย์สินขายเข้า TowerCo แต่ปัจจุบันจะเห็นว่าราคาหุ้น INTUCH วิ่งทะลุมาอยู่ที่ 83 บาท ซึ่งภายใต้สมมติฐานมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ มีการดูดสภาพคล่องของหุ้น INTUCH ออกจากตลาดโดยนักลงทุนบางกลุ่ม สังเกตได้จากวอลุ่มมากผิดปกติ
ทั้งนี้ถ้ามาพิจารณาสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) รวมกับ SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD. และ GIC PRIVATE LIMITED รวมกันถืออยู่ 68% นั่นหมายความว่าหุ้น INTUCH จะเหลือการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) แค่ 32% ในระดับดังกล่าวเป็นนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศประมาณ 10-15% ดังนั้นจะเหลือฟรีโฟลตจริงๆ ในตลาดประมาณ 15-20% เท่านั้น
“ถ้ามีคนดึงฟรีโฟลตตรงนี้ออกจากตลาดประมาณ 5% จะเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องหายไป ซึ่งสัญญาณตรงนี้คล้ายๆ กับหุ้นบริษัท เดลต้า อิเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (DELTA) ถามว่าทำไมถึงมองอย่างนั้น เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 68% ทั้ง INTUCH และ DELTA ไม่มีการขายหุ้นออกมา, ต้องมีข่าวดี ซึ่งของ DELTA คือ สตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ส่วนของ INTUCH คือ สตอรี่ขายเสาเข้าบริษัทให่เช่าเสาโทรคมนาคม จึงเริ่มเห็นสัญญาณที่คล้ายๆ กันเพิ่มมากขึ้น”
ตอนนี้เริ่มสงสัยว่า เกิดการทำราคาหุ้นเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในกรณีของ DELTA ซึ่งราคาเกินปัจจัยพื้นฐานไปแล้ว ดังนั้นนักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังในการไล่หุ้นตัวนี้ตามขึ้นไป