พรินซิเพิล ชี้โอกาสลงทุนหุ้นสหรัฐ เปิดขายกองใหม่ 8-15 ก.ย.นี้

บลจ.พรินซิเพิล ส่งกองทุนใหม่ Principal US Equity Fund เพิ่มโอกาสลงทุนหุ้นสหรัฐ มั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัวแกร่ง ชูกองหลัก iShares Russel 1000 ETF ลงทุนในหุ้นสหรัฐ แบบกระจายความเสี่ยงรายอุตสาหกรรม เสนอขาย 8-15 ก.ย.นี้ ซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท

วันที่ 6 กันยายน 2564 นายศุภกร ตุลยธัญ CFA ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกามีโอกาสสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีและเป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุนในตอนนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐ นั้นมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นตลาดหุ้นที่มี Market Cap สูงที่สุดในโลก ช่วงปีที่ผ่านมาสหรัฐสามารถฟื้นตัวจากวิกฤต COVID-19 ได้อย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งทั้งภาคการผลิตและภาคการบริการที่มีการเติบโตในระดับสูง นำหน้าทั้งกลุ่มประเทศ Developed Markets และกลุ่มประเทศ Emerging Markets

อีกทั้งในระยะข้างหน้าประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ระยะการขยายตัวของ Mid-Cycle Phase ซึ่งจะมีอัตราการเติบโตมากกว่า 3% สูงกว่า GDP ในระยะยาวของสหรัฐ และเอื้อต่อการขยายตัวของกำไรบริษัทจดทะเบียน

ขณะเดียวกันสหรัฐสามารถแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ดี โดยมีอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันมีอัตราการฉีดวัคซีนสองเข็มมากกว่า 50% ของประชากร จึงสามารถผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ได้ และถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีอัตราการระบาดที่เพิ่มมากขึ้นจากไวรัสสายพันธุ์เดลต้า แต่ทางรัฐบาลสหรัฐก็ยืนยันว่าจะไม่มีการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง

ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าบริษัทเอกชนในสหรัฐจะสามารถรักษาระดับการเติบโตของผลประกอบการ อีกทั้งจะสามารถสร้างผลกำไรที่เพิ่มขึ้นได้ในช่วงปี 2565-2566 จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและการปรับเพิ่มประมาณการกำไรอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา พบว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่ดีในระดับมากกว่า 6% ต่อปีทั้งสองไตรมาส โดยในระยะถัดไปคาดว่าจะมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการผ่านร่างนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอีกกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประกอบด้วย ร่างนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานก้อนใหม่มูลค่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์ และร่างนโยบายการลงทุนด้านสวัสดิการสังคมและ Climate Change ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มูลค่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเราคาดว่าเม็ดเงินลงทุนสองก้อนนี้จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและภาคเอกชนในอนาคต

นายศุภกรกล่าวต่อว่า บลจ.พรินซิเพิล จึงเพิ่มทางเลือกแก่นักลงทุนที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยเปิดตัวกองทุนเปิดพรินซิเพิล ยูเอส อิควิตี้ หรือ Principal US Equity Fund (PRINCIPAL USEQ) มีทุนจดทะเบียน 3,000 ล้านบาท (Greenshoe 15%) เตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 8-15 กันยายน 2564 กำหนดซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท

โดยเป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Feeder Fund ที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวคือ iShares Russel 1000 ETF เป็นกองทุนหลัก ซึ่งหากย้อนดูในอดีตนับจากปี 2550-2563 ดัชนี Russell 1000 ให้ผลตอบแทนเป็นบวก และให้ผลตอบแทนแบบทบต้นต่อปีที่มีความโดดเด่น โดยให้ผลตอบแทน 1 ปี 43% 3 ปี 19% ต่อปี 5 ปี 18% ต่อปี และ 10 ปี 15% ต่อปี (ผลตอบแทนของดัชนีเทียบวัด : 1 ปี =43.07% ต่อปี 3 ปี =19.19% ต่อปี 5 ปี =17.99% ต่อปี และ 10 ปี =14.90% ต่อปี, Source FTSE Russell ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564)

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืน และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด โทร. 0-2686-9595 หรือ www.principal.th หรือ Principal TH Mobile App