หุ้นไทย (SET) วันนี้แกว่งตัว 1,620-1,640 จุด แม้จะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบและความหวังการเปิดประเทศ อย่างไรก็ตามระวังแรงขายลดเสี่ยง FTSE ลดน้ำหนักหุ้นไทย ทั้งนี้สัปดาห์หน้าติดตามการประชุม Fed เบื้องต้นคาดคงดอกเบี้ยแต่อาจลด QE
วันที่ 17 กันยายน 2564 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี หรือ บล.กรุงศรี คาดดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้แกว่งตัว 1,620-1,640 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบทรงตัวเหนือ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รวมถึงความคาดหวังเศรษฐกิจฟื้นตัวตามช่วงเวลา (timeline) เปิดประเทศ 4 stage ของรัฐบาล อย่างไรก็ตามควรระวังแรงขายลดความเสี่ยงจาก FTSE rebalance ลดน้ำหนักหุ้นไทยลงราว 40-45 ล้านดอลลาร์ที่จะมีผลวันนี้ รวมถึงการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในสัปดาห์หน้าว่าจะลดการใช้ QE ลงหรือไม่
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
สำหรับปัจจัยวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดลง 63 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะนักลงทุนเริ่มระมัดระวังก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในสัปดาห์หน้า ส่วนราคาน้ำมันดิบมีปัจจัยลบกดดัน หลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในอ่าวเม็กซิโกค่อย ๆ เพิ่มขึ้น หลังจากพายุเฮอริเคนนิโคลัสผ่านพ้นไปแล้ว
ด้าน FTSE Rebalance มีผลโดยใช้ราคาปิดวันนี้ FTSE ลดน้ำหนักหุ้นไทยคาดมีเงินทุนไหลออกประมาณ 40-45 ล้านเหรียญ KBANK และ BBL ได้เข้าคำนวณใน FTSE All World Index แต่จะถูกหักล้างจากการลดน้ำหนักในกระดาน -F และ NVDR ด้าน CPN และ LH ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน 13-15 ล้านเหรียญ ส่วนหุ้นที่ถูกลดลงน้ำหนักส่วนใหญ่เป็นหุ้น Big Cap อาทิ ADVANC AOT CPALL PTT SCC และ SCB แต่ถูกลดน้ำหนักเพียง 3-7 ล้านเหรียญเท่านั้น
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะประชุมเพื่อกำหนดทิศทางนโยบายการเงินในวันที่ 21-22 ก.ย. เบื้องต้นคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ตามเดิม แต่มีโอกาสสูงที่เฟดจะส่งสัญญาณในการลดวงเงิน QE ตามที่เจอโรมพาวเวลล์เคยประกาศไว้ว่าจะเริ่มลด QE ก่อนสิ้นปีนี้ จึงเป็นไปได้ที่ Fed จะส่งสัญญาณก่อน ซึ่งเร็วสุดคือการประชุมครั้งนี้และล่าสุดคือเดือน พ.ย.
ทั้งนี้ บล.กรุงศรี แนะนำหุ้นน่าจับตาวันนี้ ได้แก่ TU หรือ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ราคาปิดที่ 21.5 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อ/เป้าหมายราคาที่ 22.60 บาทต่อหุ้น ได้บรรยากาศ (Sentiment) บวกจากเงินบาทกลับมาอ่อนค่า ธุรกิจเข้าสู่ High season และปลายปีนี้และปีหน้ามีการนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คือ 1) TFM ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2) i-Tail ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่อันดับ 15 ของโลก
และอีกตัวคือ KCE หรือ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) ราคาปิดที่ 78.5 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อ/เป้าหมายราคาตาม IAA Consensus ที่ 96 บาทต่อหุ้น ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่าหนุนกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ปี’65 และปี’66 จะมี Growth Story จากการขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 45% ของกำลังการผลิตรวมในปัจจุบัน