UBE เคาะราคาหุ้นไอพีโอ 2.40 บาท จองซื้อ 21-23 ก.ย. พร้อมเทรด 30 ก.ย.นี้

“อุบล ไบโอ เอทานอล” (UBE) เปิดเคาะราคาหุ้นไอพีโอ 2.40 บาทต่อหุ้น จำนวนหุ้นเสนอขาย 1,370 ล้านหุ้น เปิดจองซื้อวันที่ 21-23 ก.ย. พร้อมกำหนดวันเข้าซื้อขายวันแรก 30 ก.ย. 64 ลุยนำเงินระดมทุนต่อยอดรุกธุรกิจแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิก-เกษตรอินทรีย์ และชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

วันที่ 17 กันยายน 2564 นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีธุรกิจอยู่ทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่ 1) เอทานอลจากแป้งมันสำปะหลัง ได้บริษัทพันธมิตรที่แข็งแรงอย่าง กลุ่มบริษัทบางจาก, ไทยออยล์ ที่ร่วมกันสร้างโรงงานเอทานอล ซึ่งถือว่าเป็นโรงงานผลิตเอทานอลที่ที่กำลังผลิตเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ 2) บริษัท อุบลซันฟลาวเวอร์ จำกัด ที่ผลิตแป้งฟลาวมันสำปะหลังแบบทั่วไปและแบบออร์แกนิกและแป้งมันสำปะหลัง 3) บริษัท อุบลไบโอเกษตร จำกัด จะเป็นผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์อื่น ๆ

ในส่วนของธุรกิจเอทานอลได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐที่ส่งเสริมให้มีการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพเพิ่มขึ้น และความต้องการใช้เอทานอลในประเทศที่เป็นไปตามความต้องการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ความต้องการใช้เอทานอลนั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง และหนุนในบริษัทเติบโตตามไปด้วย

ขณะที่ธุรกิจแป้งมันสำปะหลังจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ แป้งมันสำปะหลังออร์แกนิก และฟลาวมันสำปะหลัง ล่าสุดบริษัทเป็นเจ้าเดียวที่ทำการส่งออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับมันสำปะหลังไปที่สหรัฐอเมริกา, ยุโรป และล่าสุดคือประเทศจีน รวมถึงเกาหลีและญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทมีแผนการส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังต่อไร่ จากปัจจุบันที่ 3.5 ตันต่อไร่ เป็น 7 ตันต่อไร่ ภายในปี 2569

“นอกจากนี้ในอนาคตบริษัทเตรียมผลิตข้าวออร์แกนิกหรือข้าวอินทรีย์ รวมถึงเมล็ดกาแฟอินทรีย์ ซึ่งสองสิ่งนี้จะเป็นสินค้าเกษตรอินทรีย์ตัวใหม่ของบริษัทที่จะออกมาใหม่ในอนาคต” นายเดชพนต์กล่าว

ในด้านของจุดแข็ง UBE เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่อัตรากำไรสูง และตั้งอยู่ในทำเลเชิงยุทธศาสตร์ในแหล่งวัตุดิบที่มั่นคงและได้เปรียบอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตมันสำปะหลังมากที่สุดลำดับที่ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นอกจากนี้บริษัทยังมีเครือข่ายเกษตรที่เข้มแข็ง ส่งผลดีต่อความมั่นคงทางวัตถุดิบ รวมถึงมีพันธมิตรด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง และสุดท้ายคือบริษัทที่การกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจที่ดี แม้ว่ารายได้ส่วนใหญ่จะมาจากเอทานอลซึ่งอยู่ในประเทศไทยเป็นหลัก แต่ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแป้งมันสำปะหลังบริษัทส่งออกทั้งหมดบริษัทมีรายได้ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ

ด้านนายชุณห์ โภไคศวรรย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า UBE มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ในแง่ของรายได้บริษัทมีรายได้สูงที่ 4,000 ล้านบาท มาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีย้อนหลัง ในส่วนของ EBITDA ที่มีสูงถือ 719 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วงปี 2563 ที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 บริษัทยังคงรักษาระดับการทำกำไรไว้ได้เป็นอย่างดี อันเนื่องมาจากความแข็งแกร่งของบริษัทและการปรับตัวที่ดี รวมถึงในปีนี้รายได้ 6 เดือนแรกของปี’64 มีมูลค่าสูงกว่าเมื่อเทียบทั้งปี’63

นางรัชดา เกลียวปฏินนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเชีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า UBE เป็นผู้ผลิตและแปรรูปมันสำปะหลังที่ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ มีรายได้หลักอยู่ 2 ส่วน คือ ธุรกิจเอทานอลและธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง โดยที่บริษัทไม่ได้มีการพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเป็นหลัก จึงถือว่าบริษัทมีการกระจายความเสี่ยงในธุรกิจที่ดีในระดับหนึ่ง

ซึ่งรายได้ที่ได้จากเอทานอลเป็นรายได้ที่มั่นคงและสม่ำเสมอมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อปี ความมั่นคงมาจากกำไรจากผลิตของบริษัทที่ประมาณ 4 แสนลิตรต่อวัน รวมถึงรายได้จากแป้งมันสำปะหลังก็มีการทำกำไรและอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทยังมีความมุ่งเน้นที่จะสร้างความยั่งยืนในธุรกิจ ซึ่งทำให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น

นางยอดฤดี สันตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย กล่าวว่า หลังจากที่ได้ทำการโรดโชว์ต่อนักลงทุนสถาบันไปแล้ว พบว่านักลงทุนสถาบันให้ความสนใจเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ สำหรับข้อมูลการเสนอขายจะใช้ชื่อย่อในหลักทรัพย์ว่า “UBE” ในกลุ่มทรัพยากรและสาธารณูปโภค โดยจำหน่ายหุ้นไอพีโอ (IPO) ทั้งหมด1,370 ล้านหุ้น (35%) ประกอบด้วย

1.หุ้นสามัญเพิ่มทุน 1,174,286,000 หุ้น (30%)

2.หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย BBGI 97,857,000 หุ้น (2.5%)

3.หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย TET
97,857,000 หุ้น (2.5%)

สำหรับที่ปรึกษาการเงินในการเสนอขายครั้งนี้ คือ บริษัท ที่ปรึกษา เอเชีย พลัส จำกัด โดยเคาะราคาเสนอขายที่ 2.40 บาทต่อหุ้น ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ไอพีโอ (IPO) 9,394 ล้านบาท เปิดจองซื้อวันที่ 21-23 กันยายน 2564 และกำหนดวันเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 30 กันยายน 2564

ยอดฤดี สันตติกุล

ทั้งนี้สำหรับวัตุประสงค์ในการระดมทุน บริษัทตั้งงบฯลงทุนไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ได้แก่

1.เป็นเงินลงทุนในโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจปัจจุบัน ได้แก่
– การเพิ่มกำลังการผลิตแป้งฟลาวมันสำปะหลัง 200 ตัน/วัน (จาก 100 ตัน/วัน เป็น 300 ตัน/วัน)

– การลงทุนสร้างสายการผลิตสารให้ความหวาน (Sweetener) เช่น ไซรัป (Syrup) และมอลโทเดกซ์ ทริน (Maltodextrin) กำลังการผลิต 300 ตัน/วัน

– การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแป้งมันสำปะหลัง โดยการลงทุนในเครื่องจักรใหม่ต่าง ๆ เช่น เครื่องโม่ หัวมันสำปะหลัง และเครื่องสลัดแป้ง เป็นต้น

– การลงทุนในโรงสีเชอร์รี่กาแฟและโรงคั่วกาแฟออร์แกนิค

2.ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

3.เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วย

– เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทสำหรับการจัดซื้อวัตถุดิบผลิตเอทานอล

– เงินทุนหมุนเวียนของ บจก.อุบลซันฟลาวเวอร์ (บริษัทย่อย) สำหรับการจัดซื้อวัตถุดิบผลิตแป้งมันสำปะหลังเงินทุนหมุนเวียนของ บจก.อุบลไบโอเกษตร (บริษัทย่อย) สำหรับการส่งเสริมการปลูกพืชเกษตรอินทรีย์