สรรพากรโต้ข้อสังเกตนักวิชาการติง “ช้อปช่วยชาติ” ชี้ คนใช้สิทธิกว่า 1.4 ล้านราย มีทุกระดับอัตราภาษี

ตามที่ ศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ตั้งข้อสังเกตถึงมาตรการช้อปช่วยชาติ (13 พ.ย.- 3 ธ.ค. 2560) ในประเด็นดังนี้

1. ผลของมาตรการช้อปช่วยชาติต่อการกระตุ้นการใช้จ่ายและเศรษฐกิจค่อนข้างต่ำ เม็ดเงินสะพัดไม่ถึง 10,000 ล้านบาท และส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายที่ต้องจ่ายตามปกติอยู่แล้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดการชะลอการบริโภคในระยะต่อไป

2.ประชาชนที่ได้ประโยชน์จากมาตรการนี้ เป็นกลุ่มคนที่ค่อนข้างจำกัด โดยเป็นผู้เสียภาษีในอัตราภาษี 20% ขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มคนเพียง 7% ของผู้ยื่นแบบเสียภาษี

กรมสรรพากร ขอเรียนว่า

1.จากข้อมูลการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2559 (มาตรการช้อปช่วยชาติ) พบว่ามีผู้ใช้มาตรการดังกล่าวจำนวนมากกว่า 1.4 ล้านราย คิดเป็นจำนวนเงินที่ใช้สิทธิมากกว่า 14,000 ล้านบาท โดยมีผู้ใช้มาตรการนี้ในทุกระดับอัตราภาษี ทั้งนี้ จำนวนผู้ใช้สิทธิในมาตรการนี้และเสียภาษีในอัตราที่ต่ำกว่าร้อยละ 20 นั้น มีจำนวนสูงกว่าผู้ใช้สิทธิและเสียภาษีในอัตราตั้งแต่ร้อยละ 20 ขึ้นไป ซึ่งกรมสรรพากรคาดว่า มาตรการช้อปช่วยชาติในปี 2560 จะได้รับผลตอบรับดีกว่าปีก่อน โดยอาจต้องรอดูข้อมูลการบริโภคภายในประเทศต่อไป

2.การออกมาตรการนี้เป็นการช่วยบรรเทาภาระภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดา ซึ่งจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ดี มาตรการนี้จะส่งเสริมให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคที่มีทางเลือกในการเลือกซื้อสินค้า แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ลดหย่อนก็ตาม อีกทั้งยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ผู้ประกอบการและผู้บริโภคของการอยู่ในระบบภาษีอากร อันจะส่งผลดีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในภาพรวม ทั้งนี้ ในการกำหนดมาตรการภาษีในแต่ละครั้งนั้น กรมสรรพากรได้พิจารณาถึงความคุ้มค่า ความเหมาะสม และผล กระทบ จากการกำหนดมาตรการภาษีแล้ว