เงินบาทอ่อนค่า นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ

เงินบาท

เงินบาทอ่อนค่า นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) 15-16 มีนาคมนี้ คาดเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ขณะที่เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 33.50/54 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 15 มีนาคม 2565 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (15/3) ที่ระดับ 33.49/53 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (14/3) ที่ระดับ 33.38/40 บาท โดยค่าเงินบาทเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์

นอกจากนี้นักลงทุนจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยรายงานล่าสุดระบุว่า การเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ระหว่างยูเครนและรัสเซียเมื่อวานนี้ได้เสร็จสิ้นลงโดยยังไม่ได้ข้อสรุป ทำให้ทั้งสองฝ่ายพักการเจรจาชั่วคราว ก่อนที่จะเริ่มการเจรจาครั้งใหม่ในวันนี้

สำหรับการเจรจาสันติภาพในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องให้รัสเซียทำการหยุดยิงและถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากยูเครน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงรอการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารสหรัฐ (เฟด) ระหว่างวันที่ 15-16 มีนาคมนี้ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2561

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ทางด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงนามใน ประกาศกรุงเทพมหานคร ประกาศให้ กทม.ปลดล็อกงานประชุมสัมมนา-งานเลี้ยงให้ดื่มสุราถึง 5 ทุ่ม นอกจากนี้ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการเห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 3,185,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 85,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.74%

Advertisment

ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 33.44-33.54 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 33.50/54 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้านี้ (15/3) ที่ระดับ 1.0947/49 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (14/3) ที่ระดับ 1.0975/77 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรได้รับปัจจัยเชิงลบ จากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้อต่อเนื่อง

โดยประเทศสมาชิก EU เห็นชอบคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเป็นรอบที่ 4 หลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครน โดยแหล่งข่าวการทูตระบุว่า การคว่ำบาตรครั้งนี้จะรวมถึงการสั่งห้ามนำเข้าเหล็กกล้าและเหล็กของรัสเซีย, การสั่งห้ามส่งออกสินค้าหรู อาทิ รถยนต์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 50,000 ยูโร (55,000 ดอลลาร์) และการสั่งห้ามลงทุนในบริษัทน้ำมันและภาคพลังงานอีกด้วย

สำหรับตัวเลขทางเศรษฐกิจ เปิดเผยดัชนีราคาค้าส่งของเยอรมนีในเดือนกุมภาพันธ์ ออกมาที่ระดับ 1.7% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.9% ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.0945-1.1010 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0995/97 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

Advertisment

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเปิดตลาดเช้าวันนี้ (15/3) ที่ระดับ 118.29/31 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (14/3) ที่ระดับ 117.92/94 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินเยนอ่อนค่าตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนได้เข้าซื้อเงินดอลลาร์เพราะนโยบายการเงินของสหรัฐกับญี่ปุ่นมีทิศทางต่างกัน ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า การที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดำเนินนโยบายเชิงรุกมากขึ้น ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 117.80-118.40 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 117.91/93 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐเดือน ก.พ. (16/3), ดัชนีค้าปลีกสหรัฐเดือน มี.ค. (17/3), อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด (17/3), ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐเดือน ก.พ. (18/3)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -0.9/-0.6 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +1.0/+4.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ