สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 25 ธันวาคม 2560

ที่มา : bisnews

สภาวะตลาดวันที่ 25 ธันวาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,274.86-1,275.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 19,840 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,740 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.51 น. ของวันที่ 25/12/60)

แนวโน้มวันที่ 26 ธันวาคม 2560

ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานของสหรัฐ ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานปรับขึ้นเพียง0.1% ในเดือนพ.ย. หลังจากปรับขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. โดยตัวเลขนี้เป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) นิยมใช้ ทั้งนี้ ดัชนี PCE พื้นฐานปรับขึ้นเพียง 1.5% ต่อปีในเดือนพ.ย. ซึ่งดัชนีนี้ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% ตั้งแต่กลางปี 2555 เป็นต้นมา อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำในเดือน พ.ย. อาจจะเป็นปัจจัยที่กำหนดจังหวะความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2561 โดยนักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดการณ์เป็นครั้งแรกว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้งในปี 2561 จนกระตุ้นแรงซื้อทองคำให้สามารถทรงตัวใกล้จุดสูงสุดรอบกว่า 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการซื้อขายบางเบาในช่วงวันหยุดคริสต์มาสของต่างประเทศ นักลงทุนพากันปลีกตัวอยู่นอกตลาด เนื่องจากตลาดเงินและตลาดหุ้นหลายประเทศในเอเชียปิดทำการ รวมทั้งอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี และสหรัฐ ปิดทำการเนื่องในวันคริสต์มาสเช่นกัน แม้ว่าจะมีบางตลาดยังคงเปิดการซื้อขาย แต่ราคาทองคำตลาดโลกยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ประกอบกับสัปดาห์นี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญมากนัก แต่ยังต้องติดตามตัวเลขราคาบ้านในสหรัฐเดือนต.ค. จาก สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จาก Conference Board, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เพื่อเป็นปัจจัยชี้นำราคาทองคำเพิ่มเติม รวมทั้งติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณคาบสมุทรเกาหลี หลังจากกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือแถลงว่า มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือชุดล่าสุดของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถือเป็นการทำสงคราม และเกาหลีเหนือขู่ที่จะลงโทษทุกประเทศที่สนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรนี้ ได้เป็นปัจจัยบวกพยุงราคาทองคำไว้ อย่างไรก็ดีหากราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ คาดว่าระยะสั้นจะมีแรงขายทำกำไรให้ราคาปรับตัวลงมาก่อน แต่อาจปรับตัวลงไม่มากนัก เนื่องจากราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบและปริมาณการซื้อขายยังคงเบาบาง

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่ายังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจลดลงจากช่วงที่ผ่านมา โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,264 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,251 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไป

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,264 (19,550บาท) 1,251 (19,350บาท) 1,243 (19,200บาท)
แนวต้าน 1,282 (19,850บาท) 1,294 (20,050บาท) 1,300 (20,150บาท)

GOLD FUTURES (GFZ17)

แนวรับ 1,264 (19,670 บาท) 1,251 (19,470 บาท) 1,243 (19,340 บาท)
แนวต้าน 1,282 (19,950 บาท) 1,294 (20,140 บาท) 1,300 (20,230 บาท)