นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2561 รับเป้าหมายจัดเก็บรายได้ไว้ที่ 1.928 ล้านล้านบาท โดยยืนยันว่าปีนี้สามารถทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน แม้ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมากรมจะจัดเก็บภาษีต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งในปีงบ 2560 รับเป้าหมายจัดเก็บรายได้มา 1.79 ล้านล้านบาท จัดเก็บต่ำกว่าเป้าหมายไป 7 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้มั่นใจว่าการจัดเก็บตามเป้าหมาย เพราะเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากคาดการณ์กันว่าจะโตกว่า 4% ปกติการจัดเก็บภาษีจะโตตามภาวะเศรษฐกิจอยู่แล้ว
นอกจากนี้โครงการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ทำให้ภาคก่อสร้างขยายตัวทำให้ภาษีในกลุ่มก่อสร้างดีขึ้น รวมถึงการส่งอออกที่มีแนวโน้มดีมาตั้งแต่ปี 2560 ต่อเนื่องถึงปี 2561 ทำให้บริษัทส่งออกมีกำไรที่ดีขึ้นทำให้ภาษีในกลุ่มบริษัทส่งออกดี ส่วนพืชไร่คาดกันว่ามีแนวโน้มที่ดีทำให้การบริโภคดี ส่งผลต่อภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จัดเก็บได้สูงขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันคาดว่าจะอยู่ในเป้าหมายที่กรมกำหนดไว้ หลังจาก 2 ปีที่ผ่านมา น้ำมันโลกต่ำกว่าเป้าหมายมาก ทำให้ภาษีปิโตรเลียมหลุดเป้าหมายไปพอสมควรแต่ปีนี้ภาษีปิโตรเลียมน่าจะดีขึ้น
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
นายประสงค์กล่าวว่า ในปีงบ 2562 กำลังจัดทำงบประมาณกรมสรรพากรยังไม่ได้สรุปตัวเลขเป้าหมายจัดเก็บไว้อย่างชัดเจน เบื้องต้นคาดว่ากรมต้องจัดเก็บไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท ในปี 2562 ได้รับผลดีจากการภาษีค้าออนไลน์ (อีบิซิเนส) ขณะนี้กรมกำลังพยายามผลักดันและจะเปิดรับฟังความคิดเห็นรอบ 2 ในเดือนมกราคมนี้ หลังจากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำเสนอไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป รวมถึงในเรื่องภาษีในโครงการอีเพย์เมนต์ กำลังอยู่ในการพิจารณาของกฤษฎีกามา 1 ปี หากกฎหมาย 2 ตัวแล้วเสร็จทำให้การจัดเก็บภาษีของกรมเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% (ประมาณ 3 แสนล้านบาท) จากปกติการจัดเก็บภาษีของกรมจะโตประมาณปีละ 5% (ประมาณ 1 แสนล้านบาท)
ทั้งนี้กรมมีแผนเข้าไปแนะนำร้านอาหารให้เชื่อมระบบคิดเงิน (พีโอเอส) กับระบบบัญชีอย่างง่ายของกรมสรรพากร เพื่อให้การเสียภาษีเป็นไปอย่างถูกต้อง และเป็นการช่วยร้านค้าในการลงบัญชีอย่างถูกต้อง รวมถึงไปแนะนำให้ร้านค้าออกใบกำกับภาษีให้ถูกต้องด้วย ซึ่งกรมจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปแนะนำร้านอาหารดังกล่าวเริ่มจากร้านอาหารในซอยอารีย์ รอบๆ กรมมีอยู่ประมาณ 180 ร้านค้าก่อน หลังจากนั้นเริ่มในร้านค้าใหญ่ และร้านค้าแฟรนไชส์ ที่มีการสาขาจำนวนมาก
ที่มา : มติชนออนไลน์
