อัพเดตคดีน้ำเพชร เพชรลดา อดีตผู้สมัครนางงามเวทีดัง กรณีร่วมอุ้มคนจีน

อัพเดตคดีน้ำเพชร เพชรลดา
ภาพจาก ข่าวสด

เปิดความคืบหน้าคดีน้ำเพชร เพชรลดา อดีตผู้สมัครนางงามเวทีดัง ร่วมมือแฟนชาวไทยและพวกอุ้มคนจีนเรียกค่าไถ่ 4 ล้านบาท

วันที่ 18 เมษายน 2566 ข่าวสด รายงานว่า จากกรณีที่ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเข้าจับกุมตัว น.ส.เพชรลดา แสงสกุล หรือ น้ำเพชร อดีตผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์จังหวัดสุพรรณบุรี ปี 2563 และนายศุภพล ฮาลมัน แฟนหนุ่มชาวไทย พร้อมรถเก๋ง BMW 1 คัน เนื่องจากทั้งคู่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอุ้มคนจีน

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา นาย YU นักท่องเที่ยวชาวจีนได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ลุมพินี ว่าไม่สามารถติดต่อนายหวัง เพื่อนชาวจีนได้หลายวันแล้ว ต่อมาในวันที่ 16 เมษายน นายหวังได้ติดต่อมาทางวิดีโอคอลพร้อมกล่าวว่า “ไม่ต้องไปแจ้งความ เดี๋ยวคนร้ายจะปล่อยตัวถ้าโอนเงินมา”

แต่เนื่องจากนายหวังมีการบอบช้ำบริเวณใบหน้า ทำให้นาย YU กังวลว่าเพื่อนของตนจะถูกทำอันตรายถึงชีวิต จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ

โดย พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนพบว่านายหวังเคยคบหากับ น.ส.เพชรลดา หรือน้ำเพชร แฟนสาวชาวไทย เป็นระยะกว่า 1 ปี และได้เลิกรากันไป 3 เดือน ก่อนที่จะกลับมาคบกันอีกครั้ง น.ส.น้ำเพชรให้การว่า นายหวังให้ค่าเลี้ยงดูเดือนละ 1 แสนบาท ส่วนแฟนหนุ่มชาวไทยนั้นชอบเล่นการพนัน ไม่มีงานทำ

ทั้งนี้ เนื่องจากนายหวังมีทรัพย์สินจำนวนมากจึงร่วมกันวางแผนอุ้มนายหวังเพื่อเรียกเงินค่าไถ่ และเนื่องจากทราบว่านายหวังเป็นกลุ่มคนจีนสีเทา มีหมายจับทางการจีน จึงเชื่อว่าคงไม่กล้าแจ้งความ

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 19.00 น. กลุ่มผู้ก่อเหตุชาวไทยประมาณ 3 คน ได้เดินทางมาที่คอนโดมิเนียมย่านสาทร ซึ่งเป็นคอนโดที่นายหวังใช้พักอาศัย และใช้คีย์การ์ดที่ น.ส.น้ำเพชรมอบไว้ให้ ขึ้นไปที่ห้องเพื่อเปิดประตูห้องก่อนจะล็อกตัวนายหวังแล้วจับมัดมือมัดเท้าขังไว้ในห้อง

จากนั้นได้ใช้โทรศัพท์ของนายหวัง คุยกับ รปภ. ข้างล่างคอนโดฯ เพื่อขอยืมรถเข็นในการขนของ ก่อนที่ 1 ในผู้ก่อเหตุจะออกไปซื้อลังพลาสติกขนาดใหญ่ แล้วนำนายหวังใส่กล่องพลาสติกขนขึ้นรถขับออกไปจากคอนโดฯ เพื่อไปขังไว้ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 1 คืน

เมื่อถึงบ้านพักที่หัวหินได้ข่มขู่และทำร้ายร่างกายนายหวัง ก่อนที่จะวิดีโอคอลไปหาเพื่อนของผู้เสียหาย คือนาย YU ว่าไม่ให้แจ้งความกับตำรวจ จากนั้นบังคับให้นายหวังโอนเงินเข้าบัญชีนายกบจำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกโอนเงินจำนวน 2 ล้านบาท และครั้งที่ 2 โอนเพิ่มอีก 9 แสนบาท และโอนเงินเข้าบัญชีของ น.ส.ตา จำนวน 1.03 ล้านบาท รวมทั้งหมด 3 ครั้ง จำนวนเงินทั้งสิ้น 3.93 ล้าน ซึ่งขณะนี้สามารถอายัดเงินได้จำนวน 2.3 ล้านบาท

เมื่อผู้ก่อเหตุได้เงินตามที่ต้องการแล้วทำทีจะมาปล่อยตัวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตำรวจได้ติดตาม กระทั่งพบตัวจึงได้เข้าช่วยเหลือ

ต่อมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.บช.น. ร่วมกับ บก.น.5 และ สน.ลุมพินี เข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ประกอบด้วย

  • นายณัฐภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี
  • นายณัฐพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี
  • น.ส.เพชรลดา หรือ น้ำเพชร อายุ 24 ปี
  • นายศุภพล (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี แฟนหนุ่มชาวไทย
  • น.ส.สริตา (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี
  • นายโจ (ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล) อายุ 35-40 ปี

ซึ่งทั้งหมดถูกจับกุมเมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา

ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (18 เมษายน) เวลา 09.30 น. ที่สน.ลุมพินี พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ทั้ง 6 ราย ซึ่งผู้ต้องหาให้การเพียงว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ โดยยังไม่ให้การเกี่ยวกับพฤติการณ์ในคดีแต่อย่างใด และผู้ต้องหาบางรายให้การว่า ได้มีการประชุมวางแผนกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการอายัดบัญชีบางส่วน แต่ยังมีเงินอีกจำนวนหนึ่งที่ยังหลงเหลือ

โดยหลังจากสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม ได้แจ้งข้อหาเพิ่มกับกลุ่มผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ และ พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ส่วนกรณีของ น.ส.เพชรลดา ขณะนี้ยังไม่ให้การใด ๆ แต่เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานเพียงพอจนสามารถขอศาลอนุมัติหมายจับได้

พ.ต.อ.นิมิตรกล่าวอีกว่า โดยวันนี้จะมีการนำตัวผู้ต้องหา 1 รายไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอฝากขัง คือนายณัฐภัทรที่ถูกจับกุมรายแรก ส่วนผู้ต้องอีก 5 ราย จะสอบปากคำในวันนี้และจะขยายผล จากนั้นจะส่งตัวไปยื่นขอฝากขังยังศาล

ด้านผู้เสียหายชาวจีน หลังได้รับช่วยเหลือและจากการตรวจสอบประวัติจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้ประสานไปยังทางการจีน ซึ่งพบว่าผู้เสียหายรายนี้เป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง มูลค่า 12 ล้านหยวน หรือราว 60 ล้านบาทไทย ซึ่งทางการจีนได้ออกหมายจับไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นหมายแดงอินเตอร์โพล ให้เดินทางเข้าประเทศได้ โดยที่ไม่มีประวัติหมายจับดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้กักตัวไว้ที่ ตม. เตรียมผลักดันออกนอกประเทศต่อไป