กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 4 เตือนตอนบนอุณหภูมิลดหนัก ภาคใต้เจอฝนหนัก

ปรอท วัดอุณหภูมิ อุณหภูมิ สภาพอากาศ พยากรณ์อากาศ
Photo by Jarosław Kwoczała on Unsplash

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 4 เตือนประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 20-25 ธ.ค.นี้ ภาคอีสาน ลดมากสุด 5-8 องศา ขณะที่ภาคใต้ตอนล่าง เฝ้าระวังฝนตกหนัก 22-25 ธ.ค.นี้

วันที่ 20 ธันวาคม 2566 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย ฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20-25 ธันวาคม 2566) ฉบับที่ 4 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 20-25 ธ.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 5-8 องศาเซลเซียส ภาคเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอยของภาคเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ส่วนยอดภูของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-13 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 22-25 ธ.ค. 66 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 22-25 ธ.ค. 66 โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 05.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 17.00 น.

สภาพอากาศวันนี้

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง

โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าและอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเคลื่อนผ่านบริเวณภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และคลื่นลมจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 22-25 ธ.ค. 66

ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ประเทศไทยตอนบนมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันน้อยถึงปานกลาง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังปานกลาง และมีการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า

  • อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
  • บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง
  • อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง

  • อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
  • บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง

อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย กับมีลมแรง

  • อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

ตอนบนของภาค อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย กับมีลมแรง ขณะที่ตอนล่างของภาค เมฆบางส่วน กับมีลมแรง

  • อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1–2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
  • ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
  • ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล

  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพฯและปริมณฑล

เมฆบางส่วน กับมีลมแรง

  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.