สภาทนายความแถลง จับ”สุกิจ” เชื่อทนายทั่วปท.ไม่สบายใจ กระทบศักดิ์ศรีวิชาชีพ

ทนายความทั่วประเทศ เดือดไม่พอใจ กองปราบบุกจับทนายสุกิจ รุนเเรง กว่าเหตุ นายกฯ”ถวัลย์ “นัดถกเเนวทางปฏิบัติ ผบ.ตร.เร็วๆนี้ เตรียมนำเรื่องนี้เข้า ก.ก.กระบวนการยุติธรรม สภาทนายตั้ง ก.ก.พิจารณา ประชุมกำหนดท่าที 28มิ.ย.นี้

เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 20 มิถุนายน 2561 ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนพหลโยธิน ดร.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความพร้อมด้วย ทีมผู้บริหารสภาทนาย แถลงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอการจับกุมนายสุกิจ พูนศรีเกษม ประกอบวิชาชีพเป็นทนายความ ที่อยู่ระหว่างการพาลูกความไปแจ้งความ ที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ว่า รัฐธรรมนูญเเห่งราชอาณาจักรไทยเเละประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาให้ความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพเเก่ประชาชนเอาไว้

จากการดูคลิปเบื้องต้นตัว นายสุกิจที่ถูกจับกุมตามหมายจับขณะนั้นกำลังปฏิบัติหน้าที่ของทนายความแต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมด้วยวิธีการที่ปรากฏตามสื่อเป็นการสมควรหรือไม่ เเละเมื่อนายสุกิจเป็นทนายความ การจับกุมดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อวิชาชีพ ศักดิ์ศรีของทนายความและความเป็นมนุษย์ที่จะต้องได้รับความคุมครองตามรัฐธรรมนูญและ ป.วิอาญา ตรงนี้เราไม่ได้ออกมาว่าจะปกป้องการกระทำผิด ทุกอาชีพย่อมมีคนที่จะกระทำผิดปะปนกันไป เเต่เราตั้งข้อสังเกตถึงวิธีการจับกุมเป็นไปตามหลักการปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่เราจึงอยากฝากถึงผู้ที่เกี่ยวข้องว่าเราเข้าสู่ยุคปฏิรูปแล้ว การเข้าควบคุมเเม้จะเป็นไปตามหมายจับก็จะต้องกระทำด้วยความเหมาะสมต่อสภาพและหลักปฏิบัติ เท่าที่เห็นตามคลิปก็ไม่มีทีท่าที่จะหลบหนี สถานที่เป็น สน.เเค่เชิญตัวเขาก็ไปเเล้ว

นายถวัลย์กล่าวอีกว่า เมื่อวานหลังจากเกิดเหตุมีญาติของนายสุกิจได้แจ้งเรื่องดังกล่าวมายังสภาทนายความ ซึ่งทางเราได้เรื่องไว้พิจารณาโดยญาติของนายสุกิจยังไม่มีทีท่าว่าจะร้องขอให้ทางสภาทนายความฟ้องร้องกับหน่วยงานใด การรับเรื่องเมื่อวานเป็นเพียงการแจ้งเหตุเพื่อให้ทางสภาทนายความรับทราบและเฝ้าระวังในกรณีที่นายสุกิจถูกควบคุมตัวในลักษณะเเบบนั้น ซึ่งการจะฟ้องร้องตำรวจชุดจับกุมหรือ สตช. หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนายสุกิจซึ่งเป็นผู้ถูกกระทำ

ส่วนการเข้าควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวจะเข้าความผิดฐานการปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157หรือไม่นั้นจะต้องดูรายละเอียดในเรื่องนี้อีกครั้ง ตรงนี้ตนได้เห็นรายละเอียดเพียงเบื้องต้นที่นำเสนอโดยสื่อมวลชน ซึ่งผู้ที่ชี้ว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดหรือไม่ต้องเป็นศาลยุติธรรมที่มีอำนาจชี้ขาดความผิด

เมื่อถามว่า ท่าทีของทนายความทั่วประเทศมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร นายถวัลย์ กล่าวว่า ทนายความทั่วประเทศไม่สบายใจเรื่องนี้อย่างมาก หลังเกิดเหตุมีการสอบถามมาทางสภาทนายความ ถึงหลักการปฏิบัติดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ากระทบต่อเกียรติศักดิ์ศรีของวิชาชีพ ซึ่งก็ยอมรับว่ามีทนายความจำนวนมากไม่พอใจ ส่วนจะออกมาเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่นั้นต้องรอดูคณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องนี้ว่าจะมีการพิจารณาออกมาอย่างไร ก็จะเป็นท่าทีของสภาทนายความ

ถามต่อว่า ในฐานะที่เป็นกรรมการปฎิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม จะนำเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมการปฎิรูปด้วยหรือไม่ นายถวัลย์ กล่าวว่าเเน่นอนเรื่องนี้จะต้องนำเข้าเพราะตำรวจก็ถือเป็น1ในกระบวนการยุติธรรมเรื่องหลักในการปฎิบัติที่จะเข้าควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะกระทบสิทธิเสรีภาพที่จะต้องมีการปฏิรูป โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทางตนเองก็ได้มีการนัดหมายพูดคุยกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ถึงหลักการปฏิบัติเเละหาทางออกในเรื่องนี้ต่อไป

ถามต่ออีกว่า นายสุกิจ เคยถูกมีโทษถูกถอนใบอนุญาตชั่วคราวหรือไม่ นายถวัลย์กล่าวว่า ทราบว่านายสุกิจในอดีตเคยถูกคำสั่งห้ามว่าคดีบางประเภทชั่วคราว เเต่ตอนนี้ นายสุกิจอยู่ในสถานะทนายความที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติส่วนรายละเอียดที่เคยถูกสั่งห้ามว่าความในอดีตต้องไปดูอีกครั้ง

นายทัศไนย ไชยเเขวง อุปนายกฝ่ายต่างประเทศเเละกรรมการประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การควบคุมตัวตามหมายจับ ย่อมเป็นสิทธิที่จะทำได้ซึ่งมีหลักปฏิบัติวางไว้อยู่แล้ว ตนมองว่าการจับกุมในคดีนี้เกินสมควรกว่าเหตุทั้งในด้านของอัตราโทษและพฤติการณ์ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้อาจจะเข้าข่ายที่จะผิดกฎหมายทางสภาทนายความจึงได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และจะมีการประชุมเพื่อหารือสรุปท่าทีของสภาทนายความในเรื่องนี้ในวันที่ 28 มิถุนายน 2561

 

ที่มา:มติชนออนไลน์