เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม สื่อต่างประเทศทุกแขนงยังคงติดตามปฏิบัติการช่วยเหลือสมาชิกทีมหมูป่าและโค้ชที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนหลวง-น้ำนางนอนอย่างต่อเนื่อง ที่ต่างรายงานการทำงานของทีมช่วยเหลือซึ่งเป็นการผนึกกำลังกันของเจ้าหน้าที่ทางการไทยและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ที่ยังต้องทำงานแข่งกับเวลาและต่อสู้กับอุปสรรคท้าทายต่างๆ เช่น ระดับน้ำในถ้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้นหากมีฝนตกลงมาอย่างหนักที่จะทำให้การช่วยเหลือเป็นงานยากยิ่งขึ้น โดยสื่อทุกสำนักต่างเกาะติดการปฏิบัติการกู้ชีวิตในวันที่ 2 ที่จะนำเด็กจากทีมหมูป่าและโค้ชที่เหลือติดค้างอยู่ที่เนินนมสาวรวม 9 คน ออกมาจากถ้ำ หลังจากปฏิบัติการในวันก่อนหน้าสามารถช่วยเด็กทีมหมูป่าออกได้อย่างปลอดภัยแล้ว 4 คน
สำนักข่าวเอเอฟพีชี้ว่า ฝนยังคงเป็นหนึ่งในอุปสรรคใหญ่ของปฏิบัติการช่วยชีวิตครั้งนี้ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขึ้นภายในถ้ำขึ้นอีก และยังอาจมีสถานการณ์อันตรายอื่นๆอีกที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการนำตัวเด็กๆและโค้ชออกมาจากถ้ำได้โดยปลอดภัย
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
เอเอเฟพียังอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่บอกว่าทีมงานยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่องตลอดคืนที่ผ่านมา และยังอ้างการให้สัมภาษณ์ของแม่ของด.ช.พีรพัฒน์ สมเพียงใจ หนึ่งในทีมหมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำหลังจากที่มีรายงานการช่วยเหลือสมาชิกทีมหมูป่าออกมาได้แล้ว 4 คน บอกว่า “ฉันยังคงรออยู่ที่หน้าถ้ำ หวังว่าจะได้เห็นลูกชายของฉันจะเป็นหนึ่งในเด็กที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาวันนี้ เราได้ยินว่ามีเด็กได้รับการช่วยเหลือออกมาจากถ้ำแล้ว 4 คน แต่เรายังไม่รู้ว่าเป็นใครบ้าง พ่อแม่ยังคงเฝ้ารออยู่ พวกเรายังไม่ได้รับแจ้งข้อมูลใดๆเลย” แม่ของเด็กทีมหมูป่าบอก และว่า อย่างไรก็ดีเธอดีใจที่จะมีโอกาสได้เห็นหน้าลูกของเธออีกครั้ง
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าทีมนักดำน้ำเตรียมที่จะเริ่มลงมือปฏิบัติการช่วยเหลือสมาชิกทีมหมูป่าและโค้ชออกมาจากถ้ำเป็นวันที่ 2 หลังจากการช่วยเหลือหยุดพักไปเมื่อช่วงค่ำวันที่ผ่านมาหลังจากนำเด็กๆทีมหมูป่าออกมาจากถ้ำได้อย่างปลอดภัยแล้ว 4 คน
บีบีซียังรายงานว่าปฏิบัติการช่วยเหลือเด็กออกจากถ้ำครั้งนี้ใช้ทีมนักดำน้ำผู้เชี่ยวชาญถึง 90 คน โดยเป็นนักดำน้ำในไทย 40 คนและนักดำน้ำระดับโลกจากต่างประเทศ 50 คน โดยในการช่วยเหลือมีนักดำน้ำผู้เชี่ยวชาญ 2 คนคอยประกบหน้าหลังในการนำเด็กดำน้ำสลับเดินออกมาจากถ้ำที่เต็มไปด้วยความมืดมิดก่อนเดินทางถึงปากถ้ำได้สำเร็จ ซึ่งบีบีซีชี้ส่วนพื้นที่ที่ยากที่สุดของระหว่างเส้นทางการออกมาคือบริเวณที่เรียกว่า สามแยก ที่มีความแคบมากสำหรับนักดำน้ำที่ต้องถอดถังออกซิเจนที่ติดตัวออกถึงจะลอดผ่านพื้นที่แคบจุดนั้นมาได้
เว็บไซต์ซีบีเอสนิวส์ สื่อสหรัฐรายงานว่าปฏิบัติการนำสมาชิกทีมหมูป่าและโค้ชออกจากถ้ำในระยะที่ 2 จะเริ่มขึ้นในช่วงบ่ายวันจันทร์หลังจากทีมช่วยเหลือได้เติมถังออกซิเจนติดตั้งตามเส้นทางในการลำเลียงเด็กออกมาจากถ้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งซีบีเอสนิวส์อ้างเจ้าหน้าที่ทางการไทยระบุว่าอาจใช้เวลา 2-4 วันในการปฏิบัติภารกิจนำตัวสมาชิกทีมหมูป่าและโค้ชออกมาจากถ้ำทั้งหมดได้สำเร็จ
ซีบีเอสนิวส์ยังอ้างนางชิบานี มาห์ทานี ผู้สื่อข่าวของวอชิงตันโพสต์ที่อยู่ในพื้นที่รายงานว่าคาดว่าทีมนักดำน้ำจะเริ่มกลับเข้าไปในถ้ำในเวลา 16.00-17.00 น.ของวันเดียวกันนี้ และว่ายังมีความจำเป็นที่จะต้องเสริมอุปกรณ์จำเป็นเพิ่มเติมเข้าไป โดยเฉพาะถังออกซิเจน หลังจากการแถลงข่าวของเจ้าหน้าที่ทางการไทยระบุว่านักดำน้ำได้ใช้ถังออกซิเจนที่ติดตั้งไว้ในถ้ำหมดแล้ว
ด้านนางจูลี บิชอพ รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย แถลงกับผู้สื่อข่าวในประเทศออสเตรเลียว่า มีเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเข้าร่วมในภารกิจช่วยเหลือเด็กติดถ้ำในไทยจำนวน 19 คน ในจำนวนนี้มีนายแพทย์ริชาร์ด แฮร์ริส วิสัญญีแพทย์ชาวเมืองแอดิเลดและนักดำน้ำสำรวจถ้ำผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีส่วนอย่างสำคัญในการทำงานร่วมกับทีมแพทย์ของไทยในการประเมินสุขภาพร่างกายของเด็กในการออกจากถ้ำตามลำดับ
แอนนา เวอร์เนอร์ ผู้สื่อข่าวของซีบีเอสนิวส์ ยังรายงานถึงสปิริตความร่วมแรงร่วมใจของคนไทยที่ต้องการให้เด็กๆและโค้ชที่ติดอยู่ในถ้ำออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยผู้สื่อข่าวของซีบีเอสนิวส์ยกกรณีการเผยความรู้สึกของเกษตรกรปลูกข้าวรายหนึ่งที่เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครในเหตุการณ์เด็กทีมหมูป่าติดถ้ำบอกว่าเมื่อเธอกลับมาเป็นที่นาของเธอถูกน้ำที่สูบออกมาจากถ้ำไหลท่วมนาของเธอ แต่เธอบอกว่ายินดีที่จะทำให้นาข้าวของตนเองเป็นที่รับน้ำ หากทำให้เด็กปลอดภัย
