แตกตื่น! คลื่นซัดเข้าชายฝั่งภูเก็ตไกลถึง200เมตร ผู้เชี่ยวชาญระบุเป็นปรากฏการณ์ Monsoon Surge

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 256 ที่จังหวัดภูเก็ตพบว่ามีสภาวะคลื่นลมแรงซึ่งบริเวณชายหาดหลายแห่งมีคลื่นชัดเข้าหาฝั่งไปไกลถึง 200 เมตร และในบางพื้นที่ริมฝั่งมีน้ำทะเลหนุนสูงโดยสร้างความตื่นตกใจให้กับนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่อาศัยใกล้เคียงซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าคลื่นลักษณะนี้เกิดขึ้นมาประมาณ 1-2วันแล้ว

จากกรณีดังกล่าวนาวาเอกวันชัย จันทร์ละเอียด ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาทางทะเล กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือได้ให้อธิบายว่าเป็นปรากฏการณ์คลื่นซัดฝั่งเนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงหรือที่เรียกว่า Monsoon Surge มีสาเหตุมาจากฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงในระยะนี้ ตามปกติมรสุมจะพัดปกคลุมประเทศไทยระหว่างกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม โดยมีแหล่งกำเนิดจากบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกใต้ บริเวณมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งพัดออกจากศูนย์กลางเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้ และเปลี่ยนเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ เมื่อพัดข้ามเส้นศูนย์สูตร มรสุมนี้จะนำมวลอากาศชื้นจากมหาสมุทรอินเดีย มาสู่ประเทศไทย ทำให้มีเมฆมากและฝนตกชุกทั่วไป โดยเฉพาะตามบริเวณชายฝั่งทะเลและเทือกเขาด้านรับลมจะมีฝนมากกว่าบริเวณอื่น เช่น บริเวณ จ.ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด เป็นต้น

นอกจากนี้แล้วในช่วงนี้ยังมีปัจจัยเสริมจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนหรือชายฝั่งบริเวณจีนตอนใต้ โดยที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ยกระดับหย่อมนี้เป็นพายุดีเปรสชั่นเหนี่ยวนำให้ลมมรสุมที่พัดแรงขึ้น ไปเข้าสู่ศูนย์กลางของพายุบริเวณดังกล่าวอีกด้วย

จากการติดตามสถานการณ์ตามหาดต่างๆในจังหวัดภูเก็ต มีหลายหาดที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นซัดฝั่งครั้งนี้ เกิดคลื่นกัดเซาะ หน้าผิวดินทำให้ต้นไม้ต้นมะพร้าว ต้นสนริมหาด ล้มลงจำนวนมาก นอกจากนี้ ที่หาดในหาน คลื่นยังกัดเซาะฐานของหอตรวจการณ์ชายฝั่งของเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด พังลงมา บางพื้นที่คลื่นได้พัดเอาทรายขึ้นมาบนถนนหนา 5-10 เซนติเมตร การเกิดคลื่นซัดฝั่งและน้ำทะเลหนุนในช่วงนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติปกติที่เป็นช่วงหน้ามรสุมแรง ประกอบกับเป็นช่วงขึ้น1 ค่ำ ถึง 3 ค่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลขึ้นสูง และปัจจัยเสริมดังกล่าวที่ทำให้มีสภาวะคลื่นสูงและลมแรงในตอนนี้

ที่มา:มติชนออนไลน์