
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 เวลา 14.00 น. ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องร่าง พ.ร.บ.ยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .. ว่ามีมติเห็นชอบให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 เพื่อให้ พ.ร.บ.ยา มีความทันสมัยมากขึ้นและเหมาะสมกับในปัจจุบัน
ทั้งนี้จึงได้มีการเพิ่มเติมข้อกำหนดในการแต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้เชี่ยวชาญ องค์กรผู้เชี่ยวชาญ และการจัดขึ้นบัญชียาต่าง ๆ โดยกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สามารถประกาศกำหนด แก้ไข และยกเลิกมาตรการสำหรับการผลิต ขาย นำเข้ายา โดยใช้มาตรการจากต่างประเทศ หรือระหว่างประเทศได้
นายพุทธิพงษ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเวลาใครจะขึ้นบัญชียาต่าง ๆ จะต้องผ่าน อย.เพียงหน่วยงานเดียวเท่านั้น แต่ใน พ.ร.บ.ฉบับที่จะปรับปรุงนี้ จะอนุญาตให้ อย.มีสิทธิ์ในการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ มาทำหน้าที่คัดกรองบัญชียาใหม่ ๆ แทนได้ แต่ยังคงอยู่ให้ความเห็นของ อย. ด้วย เพื่อทำให้เกิดความรวดเร็วขึ้นในการรับรองบัญชี ซึ่งที่ผ่าน ๆ มาอาจจะมีความล่าช้าในเรื่องการรับรองมาตรฐาน และเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ยาได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพ ทันสมัยมากขึ้น
นอกจากนี้ ใน พ.ร.บ.ฉบับที่จะปรับปรุงนี้ ได้มีการแก้ไขกำหนดบทลงโทษ การแก้ไขอัตราค่าธรรมเนียม เช่น ใบอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบัน จากเดิม 10,000 บาท จะแก้ไขอัตราเพดานขึ้นสูงเป็น 50,000 บาท ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการไปออกกฎหมายรับรองให้รอบคอบต่อไป ว่าจาก 10,000 บาท ควรจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่ แต่ต้องไม่เกินเพดานที่ 50,000 บาท และร้านขายยาแผนปัจจุบันต่าง ๆ ที่เคยมาขอใบอนุญาต จากเดิมค่าธรรมเนียม 3,000 บาท ก็จะกำหนดเพดานใหม่ไม่เกิน 5,000 บาท เช่นกัน และยังมีกำหนดการขึ้นทะเบียนตำรับยา หรืออายุของยาทุก ๆ 5 ปีด้วย เพราะยาจะต้องมีการปรับปรุงตัวยาให้ทันสมัย