ปชป.ชูนโยบายกรีนไทยแลนด์ตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่ป่า 50% สร้างโมเดลใหม่เศรษฐกิจชีวภาพ

ปชป.ชูนโยบายกรีนไทยแลนด์ตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่ป่า 50% สร้างโมเดลใหม่เศรษฐกิจชีวภาพใช้4ยุทธศาสตร์ ป่าเมืองป่าชุมชนป่าอนุรักษ์ป่าเศรษฐกิจพร้อมเดินหน้าโครงการสำคัญ วันแม็ป(One Map) โฉนดสีฟ้า ธนาคารที่ดิน-ต้นไม้ ยางยั่งยืน พันธบัตรต้นไม้

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงนโยบายป่าไม้ในการอภิปรายหัวข้อ “พรรคการเมืองไหน?..หัวใจป่าเศรษฐกิจ”ที่คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วันนี้(5ม.ค.)ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้านโยบายประเทศไทยสีเขียวหรือกรีนไทยแลนด์(Green Thailand)ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจใหม่คือเศรษฐกิจชีวภาพ(Bio Economy)ทันทีที่เป็นรัฐบาลโดยจะเพิ่มเป้าหมายพื้นที่ป่าจาก31.58%เป็น50%หรือ160ล้านไร่จากปัจจุบันเหลือพื้นที่ป่าเพียง102ล้านไร่คิดเป็นสัดส่วนป่าเพื่อการอนุรักษ์30%และป่าเศรษฐกิจ20%

โดยมี4ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนได้แก่ ยุทธศาสตร์ป่าอนุรักษ์ ป่าเศรษฐกิจ ป่าชุมชนและป่าเมือง(Urband Forestry)และมีกลไกในการบริหารนโยบายสู่เป้าหมายได้แก่ พันธบัตรต้นไม้ ธนาคารต้นไม้ ธนาคารที่ดิน ตลาดคาร์บอนเครดิต ระบบรับรองและตรวจสอบต้นไม้ด้วยไอทีเทคโนโลยี่และทรีการ์ด(Tree Card) โฉนดสีฟ้า บ่อน้ำประชาชน(People Pond) สระนำชุมชน (Community Pond)วันแม็ป(One Map)โดยเฉพาะยางพาราซึ่งมีพื้นที่ปลูกถึง19.6ล้านไร่เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญจะใช้โครงการ”ยางยั่งยืน”เป็นหลักด้วยแนวคิด”ราษฎร์-รัฐรักษ์ป่ารักษ์สิ่งแวดล้อม”และแนวทางศาสตร์พระราชา

“พรรคประชาธิปัตย์มองว่าการเพิ่มพื้นที่ป่าเป็นวาระแห่งชาติที่สำคัญยิ่งเช่นเดียวกับการสร้างป่าเศรษฐกิจในมิติรายได้และหลักประกันชีวิตของประชาชนและชุมชนพร้อมกับส่งเสริมอุตสาหกรรมไม้เศรษฐกิจที่มีความต้องการสูงสามารถสร้างรายได้ใหม่ให้ประชาชนและประเทศของเรา ปัจจุบัน มูลค่าเศรษฐกิจไม้อยู่ที่3แสนล้านบาทโดยใช้ในรูปแบบต่างๆเช่นสร้างบ้านทำเฟอร์นิเจอร์ทำเยื่อกระดาษหรือเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล เราต้องสร้างโอกาสแห่งอนาคตให้กับประเทศและประชาชนเพราะความต้องการใช้ไม้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น”

“กล่าวคือในปี 2559 อยู่ที่ 58 ล้านตัน และคาดว่าในอนาคตปี 2564 จะอยู่ที่ 80 ล้านตัน ปี 2569 อยู่ที่ราว 100 ล้านตัน และปี 2579 หรือ อีก20 ปี ราว156 ล้านตัน มูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาท เราจึงต้องสร้างจุดเปลี่ยนด้วยการบริหารนโยบายแบบบูรณาการหลายมิติ รวมทั้งการใช้ไม้เศรษฐกิจที่ส่งเสริมให้ประชาชนปลูกเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้เป็นเสมือนเงินออมเป็นบำเหน็จบำนาญยามสูงวัยทั้งนี้จะมีมาตรการจูงใจรายต้นเป็นมาตรการเร่งรัดการเพิ่มพื้นที่ป่าและโครงการบ่อน้ำชาวบ้านสระน้ำชุมชนอีกทางหนึ่ง”

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า ตัวเลขราชการสำรวจพบว่า5ปีที่ผ่านมาป่าไม้ไม่ได้เพิ่มขึ้นมิหนำซ้ำยังลดลงปีละ0.02%หรือป่าหมดไปปีละ20,000ไร่ พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าด้วยนโยบายและยุทธศาสตร์ใหม่ของพรรคจะเพิ่มพื้นที่ป่าและจัดการปัญหาที่ป่าที่ราษฎร์ที่เรื้อรังมา77ปีพร้อมกับสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่ให้ประเทศและประชาชนแบบยั่งยืนตลอดไป

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์