“สรรพสามิต” จับ-ปรับ สินค้าผิดกฎหมายจำนวน 656 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 7.66 ล้านบาท

กรมสรรพสามิตดำเนินมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายสรรพสามิต เพื่อสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต

นางสดศรี พงศ์อุทัย รองอธิบดีกรมสรรพสามิต รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ได้ดำเนินงานตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และจูงใจผู้ที่อยู่นอกระบบให้เข้ามาสู่ระบบภาษี ซึ่งที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตโดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจากสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าอาจมีการกระทำผิด เพื่อสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการ ที่เสียภาษีโดยสุจริต และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค ให้บริโภคสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากการบริโภคสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษีจะเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าสินค้าโดยทั่วไป

จากผลการตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศ ปีงบประมาณ 2562 (ระหว่างวันที่ 18 – 24 มกราคม 2562) พบว่ามีการกระทำผิด จำนวน 656 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 7.66 ล้านบาท โดยแยกเป็น

– สุรา จำนวน 402 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 3.39 ล้านบาท
– ยาสูบ จำนวน 158 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 3.20 ล้านบาท
– ไพ่ จำนวน 25 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 0.12 ล้านบาท
– น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 25 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 0.29 ล้านบาท
– น้ำหอม จำนวน 8 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 0.13 ล้านบาท
– รถจักรยานยนต์ จำนวน 23 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ จำนวน 0.26 ล้านบาท
– สินค้าอื่น ๆ จำนวน 15 คดี รวมเป็นเงินค่าปรับ 0.27 ล้านบาท

โดยมีของกลางแยกเป็นน้ำสุรา จำนวน 11,954.675 ลิตร ยาสูบ จำนวน 5,865 ซอง ไพ่ จำนวน 652 สำรับ น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 67,692.00 ลิตร น้ำหอม จำนวน 358 ขวด รถจักรยานยนต์ จำนวน 19 คัน